อันตราย 10 อย่าง จาก เทคโนโลยีสมัยใหม่
เทคโนโลยีมีคุณประโยชน์ก็ต้องมีอันตรายอยู่ด้วยอย่างแน่นอน แต่ผมไม่คิดว่าจะมีใครนั่งใคร่ครวญถึงอันตรายของเทคโนโลยีได้ถี่ถ้วน และเป็นลบได้มากเท่ากับกระทาชายนายริชาร์ด ฮอร์น มาก่อน
ริชาร์ด ฮอร์น เป็นนักเขียนชาวอังกฤษครับ หนังสือเล่มล่าสุดของแกชื่อ “เอ อิส ฟอร์ อาร์มาเกดดอน” ที่รวบรวมเอาเรื่องอันตราย ๆ ที่ “อาจ” บังเกิดขึ้นจากพัฒนาการทางเทคโนโลยีไว้มากมาย ผมเลือกเอามาเล่าสู่กันฟังแค่ 10 อย่าง
เอาแบบที่เป็นอันตรายชนิดสามารถทำร้ายหรือทำลายโลกได้ทั้งโลกได้นั่นแหละ
1.แฮกเกอร์
อย่างที่เรารู้กัน แฮกเกอร์มีทั้งดีทั้งร้าย ทั้งพวก “ไวท์ แฮท” แล้วก็พวก “แบล๊ค แฮท” เจ้าพวกกลุ่มหลังนี่แหละครับที่ ริชาร์ด ฮอร์น บอกว่า อันตรายสุดสุด เคยอวดฝีมือในการเจาะระบบคอมพ์ของหน่วยงานอย่างเพนตากอน, ระบบเตือนภัยด้านกลาโหมแห่งชาติ, นาซา, แบงก์ ออฟ อเมริกา, ซิตี้กรุ๊ป, ฐานทัพอากาศกริฟฟิธ, สถาบันวิจัยนิวเคลียร์แห่งชาติเกาหลี มาแล้ว และอาจจะทำได้อีกในอนาคต น่าสนใจนะครับ ที่บริษัทที่โดนเจาะระบบบ่อยที่สุดก็คือ ไมโครซอฟท์ นั่นเอง
หายนะระดับทลายโลกอาจมาเยือนได้ ถ้าพวกนี้เจาะเข้าไปในระบบกลาโหมของประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในครอบครอง จนอาจทำให้เกิดความเข้าใจไขว้เขวว่ามีการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ขึ้น หลังจากนั้น ทั้งโลกก็อาจตกอยู่ในสงครามเทอร์โมนิวเคลียร์ได้ง่าย ๆ
2.ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)
นักวิทยาศาสตร์และนักค้นคว้าวิจัยของหลายประเทศพยายามอย่างมากที่จะพัฒนาคอมพิวเตอร์ให้ “คิด” เองได้ ริชาร์ด ฮอร์น แสดงความกังขาเอาไว้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นถ้ามัน “คิด” และ “ตระหนักรู้ในการมีอยู่” ของตัวมัน และระบบของมันที่ถักทอเป็นเครือข่ายโยงใยไปทั่วโลก ความกระหายใคร่รู้ไม่รู้จักจบสิ้นของมัน อาจทำให้ทั้งประวัติศาสตร์และอนาคตของทั้งคนและเครื่องจักรตกอยู่ในกำมือของคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าหากมันรับรู้ว่ามนุษย์เราคิดต่อมันอย่างไรและเป็นปฏิปักษ์กับพวกมันแค่ไหน (เป็นนิยายไปหน่อยไหมเนี่ย?)
3.ไวรัสจากห้องทดลอง
อันนี้ผมค่อนข้างเห็นด้วยเลยทีเดียว ริชาร์ด ฮอร์น บอกว่า ต้องมีสักวันที่นักวิจัยในห้องทดลองเพื่อหาหนทางต่อต้านหรือฆ่าไวรัส ทำอะไรสักอย่างผิดพลาดโดยอุบัติเหตุ ส่งผลให้ไวรัสในห้องทดลองออกมาอาละวาดในสิ่งแวดล้อมทั่วไป
ที่น่าสนใจก็คือ ตอนนี้นักวิจัยกำลังทดลองพัฒนาไวรัสขึ้นมากลุ่มหนึ่งเพื่อให้ทำหน้าที่ “รักษา” (ด้วยการ “ทำลาย”) เซลล์มะเร็งในร่างกายมนุษย์ คำถามที่เกิดขึ้นในเวลานี้ก็คือว่า เมื่อมันทำหน้าที่ของมัน (กินเซลล์มะเร็ง) เสร็จแล้ว ทำอย่างไรถึงจะ “หยุด” มันได้?
4.สเต็มเซลล์
หรือที่เราเรียกกันว่า เซลล์ต้นกำเนิด ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชีวภาพที่โด่งดังมากที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เป้าหมายใน “อุดมคติ” ก็คือว่า คนเราสามารถบังคับเซลล์ต้นกำเนิดให้พัฒนาไปเป็นอวัยวะอะไรก็ได้ เพื่อนำมาใช้ “ทดแทน” ของเดิมที่พิกลพิการเสียหาย ข้อกังขาของ ริชาร์ด ฮอร์น ก็คือ ถ้าเกิดเราไม่คิด “ทดแทน” แต่อยาก “เพิ่ม” ล่ะ? เป็นไปได้หรือไม่ที่ว่า มนุษย์ในยุคนี้จะสูญสิ้นไปกลายเป็น มนุษย์ 10 หน้า 20 แขนในยุคหน้า?
5.หุ่นยนต์
ลองนึกถึงหุ่นยนต์กบฏในหนัง “ไอ-โรบ็อท” แล้วกันครับ ริชาร์ด ฮอร์น คิดคล้าย ๆ อย่างนั้น แต่เขาบอกด้วยว่า คงอีกนานที่หุ่นจะ “คิด” เองได้ และก้าวข้ามข้อจำกัดเรื่องพลังงานที่ตอนนี้ยังเป็น แบตเตอรี่อยู่ได้
6.อินเทอร์เน็ต
น่าคิดนะครับที่ ริชาร์ด ฮอร์น เขาบอกว่า อินเอร์เน็ตนำอันตรายหลาย ๆ อย่างมาให้คนเรามากกว่าที่หลายคนตระหนัก ตั้งแต่การถูกขโมยอัตลักษณ์ ไปจนถึงการถูกหลอกลวงเสียทั้งเงินเสียทั้งชีวิต แต่หายนะจริง ๆ ในความคิดของเขาก็คือ โลกนี้จะเป็นอย่างไรถ้าหากมี “ไอ้โรคจิต” คนไหนสักคนยึดเอาระบบอินเทอร์เน็ตทั้งระบบไว้ได้?
7.อาวุธนิวเคลียร์
อันนี้เห็นด้วย 100 เปอร์เซ็นต์ แต่อยากเพิ่มเติมว่า โลกเราเคยเฉียด ๆ ใกล้สงครามนิวเคลียร์มาแล้ว 3 ครั้ง (หลังการระเบิดที่ฮิโรชิม่าและนางาซากิ) ครั้งแรกเมื่อปี 1962 ที่เรียกกันว่า วิกฤตคิวบา ครั้งที่ 2 เมื่อปี 1983 ที่ระบบเตือนภัยล่วงหน้าของสหภาพโซเวียตตรวจจับกลุ่มเมฆรูปดอกเห็ดได้ แล้วเข้าใจผิดว่าเป็นควันจากระเบิดนิวเคลียร์ หนสุดท้ายเกิดในปีเดียวกัน เมื่อโซเวียตเข้าใจผิดว่าการซ้อมรบของนาโต้คือการโจมตีจริง ๆ
8.คอมพิวเตอร์ เมลท์ดาวน์
ถ้าระบบคอมพิวเตอร์ทั้งโลกหรือครึ่งโลกล่มสลายลงเอง โดยไม่ใช่ความผิดของเรา อะไรจะเกิดขึ้นตามมา? นั่นแหละคือสิ่งที่ริชาร์ดเรียกว่า “เมลท์ดาวน์” เขาบอกว่า ในทางวิทยาศาสตร์นั้นเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะจากสาเหตุของการเกิดไฟกระชากแรงมาก ๆ หรือเกิดจาก “พายุสุริยะ” ปรากฏการณ์ธรรมชาติของดวงอาทิตย์ แต่ต้องขนาดใหญ่มากกว่าที่เคยเกิดอยู่บ่อย ๆ มากครับ
9.โคลนนิ่ง
คงเป็นเรื่องหายนะของโลกได้อย่างแน่นอน ถ้าหากมีผู้นำเอาเทคโนโลยีโคลนนิ่งไปใช้ในทางที่ผิด หรือในทางด้านการทหาร
10.นาโนบ็อท
นักวิทยาศาสตร์พยายามใช้ประโยชน์จากนาโนเทคโนโลยี เพื่อให้ทำในสิ่งที่เหลือเชื่อได้ในทางการแพทย์และอื่น ๆ อย่างเช่นการสร้างหุ่นยนต์นาโนขึ้นมาให้สามารถ “จำลอง” ตัวเองขึ้นมาใหม่ได้ เพื่อทำหน้าที่รักษาอาการเจ็บป่วยในร่างกายที่แพทย์เข้าไม่ถึง
ริชาร์ด ฮอร์น บอกว่า หายนะอาจมาเยือนโลกได้ในอนาคตหากมันไม่ยอมหยุดสร้างตัวเอง กองทัพนาโนบ็อทที่พร้อมจะกลืนกินทุกอย่างที่ขวางหน้าจะกลืนกินโลกทั้งโลกได้เลย
ไม่รู้ว่าใน 10 อย่างนี้จะมีคนเห็นด้วยมากน้อยแค่ไหน แต่อย่างน้อยที่สุด ข้อสังเกตของ ริชาร์ด ฮอร์น บอกเราได้อย่างหนึ่งว่า ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ การใช้เทคโนโลยีนั้นจำเป็นต้องพอดีและมีสติยั้งคิด
ไม่เช่นนั้นอาจกลายเป็นการทำลายตัวเองได้ง่าย ๆ ค่ะ!
วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น