วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2553

“น้ำตานักรบ”..."ผมไม่อยากเป็นวีรบุรุษ และจะไม่ขอตายในชุดนักรบ"


พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.บันนังสตา...


12 มีนาคม 2553 วันที่หลายต่อหลายคนให้ความสนใจกันกับข่าว การชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม “เสื้อแดง” ในหลายๆ จุดของกรุงเทพฯ แต่สำหรับผมแล้ว ข่าวที่ยิ่งใหญ่ สะเทือนใจ และต้องถือเป็นความสูญเสียครั้งสำคัญที่สุดอีกครั้งหนึ่งของผืนแผ่นดินไทย ก็คือ การที่ชาติต้องสูญเสีย พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ท่านผู้กำกับแห่ง สภ.บันนังสตา จังหวัดยะลา ไปอย่างไม่มีวันกลับ…


หลังจากช่วงกลางวันของวันนี้ ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ส่งผลให้ท่านผู้กำกับได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมลูกน้องอีก 4 คน ขณะกลับจากติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ เหตุเกิดที่บริเวณบ้านทับช้าง ม. 2 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ก่อนทั้งหมดจะถูกลำเลียงทั้งทางรถยนต์ และทางเฮลิคอปเตอร์ ส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลาเป็นการด่วน และภายหลังเป็นที่ทราบว่าท่านได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา


ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดกว้างประมาณ 2 เมตร ลึก ประมาณ 1 เมตร โดยคนร้ายได้ซุกระเบิดไว้ใต้ท่อระบายน้ำใต้ผิวถนน แล้วลากสายไปยังป่าข้างทาง นอกจากนี้ ยังพบว่ารถยนต์กระบะโตโยต้า หมายเลขทะเบียน กข.9302 ยะลา ที่ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบันนังสตานั่งมา ได้รับความเสียหายสภาพพังยับเยิน


เบื้องต้นเชื่อว่า เป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง


ตั้งแต่ปี 2513 หลังจบการศึกษา โรงเรียนตำรวจภูธร 9 จังหวัดยะลา พลฯสมเพียร เอกสมญา ถูกส่งเข้าเป็นตำรวจประจำ สภอ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งในขณะนั้น พื้นที่ดังกล่าว เป็นเขตเคลื่อนไหวของขบวนการโจรก่อการร้าย แบ่งแยกดินแดน อย่างหนักทำให้ภาครัฐต้องระดมสรรพกำลัง ทั้งทหาร ตำรวจ และ ฝ่ายปกครอง เข้าไปแย่งชิงมวลชน และดูแลความสงบเรียบร้อย หลายครั้งที่เกิดการปะทะ ทำให้มีการสูญเสียอย่างหนักทั้งสองฝ่าย และ ปฐมบทแห่งการเป็น จ่าเพียรมือปราบ ก็เกิดขึ้นที่นั่น


พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา คือผู้ฝากผลงาน ด้านการสืบสวน ปราบปราม สู้กับ โจรก่อการร้าย ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มามากกว่า 30 ปี…


จากชีวิตตำรวจที่คลุกคลีอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาโดยตลอด เขาได้สร้างผลงานด้านการปราบปราม ต่อสู้กับโจรก่อการร้ายอย่างห้าวหาญ สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ของผู้บังคับบัญชา ทำให้กรมตำรวจ (ในขณะนั้น) ได้อนุมัติให้เข้ารับการ อบรมหลักสูตร ” นายตำรวจสัญญาบัตร ” โดยไม่ต้องสอบคัดเลือก และได้รับการเลื่อนลำดับขั้น จากผงพวงการทำงานอย่างหนักมาโดยตลอด


ผลจากการทำงานทุ่มเทมาตลอดชีวิตข้าราชการตำรวจ ทำให้ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ได้รับการยกย่อง และประกาศเกียรติคุณจากหน่วยงานต่างๆเป็นจำนวนมาก และ ที่สร้างความปลาบปลื้ม สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสูงสุดในชีวิต และครอบครัว คือ ได้รับการโปรดเกล้า ฯ เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับพระราชทาน ”เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี เหรียญมาลาเข็มกล้ากลางสมร” ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง และกระทำพิธี ”ถือน้ำพิพัฒน์สัตยา” ณ อุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 ที่ผ่านมา


และนับเป็น ตำรวจเพียงคนเดียว ในขณะมียศแค่ “จ่าสิบตำรวจ” ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ นอกจากนี้ พ.ต.อ.สมเพียร ยังได้รับพระราชทาน และประกาศเกียรติคุณจากหน่วยงานต่างๆอีกมากมาย เช่น


- ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชนชั้นสอง ประเภทหนึ่ง

- ได้รับประกาศนียบัตร ” ผู้มีผลงานสู้รบดีเด่น ” จากกระทรวงมหาดไทย

- ได้รับเข็มรักษาดินแดนสดุดี จากกระทรวงมหาดไทย

- ได้รับมอบเกียรติบัตรผู้ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติด้วยความเสียสละ จากองค์การทหารผ่านศึก

- ไดัรับประกาศผู้มีผลงานดีเด่นด้านการปราบปราม จากกองบัญชาการตำรวจภูธร 9

- ได้รับการคัดเลือกเป็นศิษย์เก่า โรงเรียนตำรวจภูธร 9 ดีเด่น

- ได้รับหนังสือสำคัญ จากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต ) ยกย่องเชิดชู เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความมั่นคงของชาติ บูรณภาพแห่งดินแดน และรักษาความสงบสุขของบ้านเมือง ด้วยความเข้มแข็งเสียสละ ฯลฯ


ผมขออนุญาตคัดลอกบทความด้านบนนี้จาก โอเคเนชั่นบล๊อก ผู้เขียนคือ คุณ เณรรูน ที่เขียนสดุดีวีรกรรมของท่านเอาไว้อย่างน่าชื่นชม ผมอยากจะชักชวนให้ท่านที่สนใจเข้าไปอ่านและสืบค้นข้อมูลของท่าน ตาม Link นี้ครับ นำเสนอ “ตำรวจยอดเยี่ยม” ของแท้ จากยะลา..




ก่อนหน้านี้เพียงแค่ไม่ถึง 1 เดือน พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ยื่นเรื่องต่อนายกรัฐมนตรี กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย หลังจากที่ทำงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยความทุ่มเทมากว่า 30 ปี โดยก่อนหน้านี้ได้ทำเรื่องขอย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ สภ.กันตัง จังหวัดตรัง เพื่อใช้ชีวิตบั้นปลายในยามใกล้เกษียร แต่ก็ไม่ได้รับการพิจารณา ผมยังจำภาพท่านแถลงข่าวแววตาคลอด้วยน้ำตาลูกผู้ชายได้ถึงทุกวันนี้


และก่อนที่ท่านจะประสบเหตุต้องเสียชีวิตในครั้งนี้ ท่านเพิ่งถูกลอบวางระเบิดในขณะที่เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุที่ บ้านยีราปัน เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมา แต่ในครั้งนั้นโชคดีที่รถยนต์ของท่านแล่นผ่านไปเพียงเล็กน้อย


ผมและครอบครัว ขอแสดงความเสียใจอย่างที่สุดต่อครอบครัว “เอกสมญา” สำหรับการสูญเสียวีรบุรุษแห่งบันนังสตา มา ณ ที่นี้ และขอให้ดวงวิญญาณของท่านสู่สุขคติในสัมปลายภพด้วยครับ


........... นี่คือเรื่องราวเพียงเศษเสี้ยวของชีวิต ตำรวจนายหนึ่ง ที่ทำงานทุ่มเท เพื่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชน เช่นเดียวกับตำรวจน้ำดีในพื้นที่อีกหลายคน พวกเขาเสมือนผู้ปิดทองหลังพระ ภายใต้เครื่องแบบสีกากี ที่เขาแสนภาคภูมิใจ แม้จะเหน็ดเหนื่อย ตรากตรำ และ เสี่ยงต่ออันตรายแค่ไหน แต่เขาไม่เคยย่อท้อ แม้อายุราชการ ของ พ.ต.อ.สมเพียร จะเหลืออีกไม่กี่ปี แต่เขายืนยัน ปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด สมดั่งปรัชญา


" ตำรวจคือ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ " ...


........... 13 ตุลาคม " วันตำรวจ " ของไว้อาลัยแด่ ตำรวจทุกท่านที่เสียชีวิตจากปฏบัติหน้าที่ ในการรักษาความสงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ และขอให้ผู้กล้าทั้งหลายที่ยังคงอยู่ มีขวัญ กำลังใจ ในการทำงาน ขอให้ปลอดภัย แคล้วคลาด ทำงานประสบความสำเร็จทุกประการ สวัสดีครับ ...........

วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2553

เตรียมตัวรับมือ USB 3.0 กำลังจะมาแล้ว

เพื่อนๆ คงจะได้ยินข่าวแววๆ มาแล้วบ้างว่า ตอนนี้ USB ของ ปัจจุบันนี้ มีถึง 3.0 กันแล้ว แต่ก็ได้ยินแค่ข่าวว่าจะมา
เพื่อนๆ คงจะได้ยินข่าวแววๆ มาแล้วบ้างว่า ตอนนี้ USB ของ ปัจจุบันนี้ มีถึง 3.0 กันแล้ว แต่ก็ได้ยินแค่ข่าวว่าจะมา แต่ก็ไม่รู้ราคาว่ามันเท่าไหร่ มาเมื่อไหร่ กันใช่ไหมล่ะครับ วันนี้เราจะนำข้อมูลอัพเดทเกี่ยวกับ USB 3.0 มาให้ทราบกันเพิ่มเติม โดยตอนแรกผมคิดว่าหากจะใช้ USB 3.0 ก็ต้องซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่แน่ๆ เลย เพราะว่าคงจะไม่ใช้งานโดยนำ USB 3.0 มาเสียบต่อ USB 2.0 หรอกเน๊อะ แต่วันนี้ไปเจอของต่างประเทศก็เลยอัพเดทให้เพื่อนๆ ชาว Xcite ให้ทราบกันค่ะ

USB 3.0 ที่เห็นในภาพนี้เป็นรูปแบบ ตัวเสียบเพิ่มในคอมพิวเตอร์ในแบบ PCIe ซึ่งจะเปิดตัวในอเมริกาในไม่นานนี้ โดยคิดว่าน่าจะมาแทนที่ USB 2.0 และ FireWire 400 ซึ่ง เหตุผลที่นำมาใช้แทนนั้น แทบจะไม่ต้องพูดถึงว่าดีแค่ไหน เพราะว่าดีกว่าทุกอย่างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการดาวน์โหลดข้อมูลที่เร็วกว่าถึง 10 เท่า ซึ่งมีความเร็วมากๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถดาวน์โหลด หนังระดับ HD หรือ สื่อมัลติมีเดียอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว

USB 3.0 PCIe เป็นอุปกรณ์เสียบเสริมในคอมพิวเตอร์ โดยเปิดตัวราคาอยู่ที่ $79.99 (ประมาณ 2,800 บาท) แต่เพื่อนๆ อย่าคิดว่าอย่างนี้คอมพิวเตอร์พกพา หรือ โน๊ตบุ๊คก็หมดสิทธิล่ะสินี้ ไม่จริงค่ะ เจ้าของผู้ผลิตได้เพิ่มทางแก้ไขให้แล้วโดยออกมาในรูปแบบ ExpressCard adapter ในรา $79.99 (ประมาณ 2,800 บาท)

ซึ่งกำหนดการเปิดตัว
เดือนเมษายน 2010 ใน US
เดือนพฤษภาคม 2010 ใน แคนนาดา


ทั้งนี้ยังมีสาย USB SuperSpeed 3.0 Premium A-B Cable, 4ft $39.99 (ประมาณ 1,400 บาท) 8ft $49.99 (ประมาณ 1,750 บาท) และสาย SuperSpeed USB 3.0 Premium Micro-B Cable 4ft $39.99 (ประมาณ 1,400 บาท) 8ft $49.99 (ประมาณ 1,750 บาท) เพื่อช่วยให้การใช้งานของเรานั้นเต็มประสิทธิภาพอีกด้วยอีกด้วย

Concept Phone 10 มือถือ แนวคิดในอนาคต

ออกมาให้เห็นกันอีกแล้ว กับการรวมรวบแนวคิดแปลกใหม่น่าสนใจของโทรศัพท์มือถือในอนาคต หรือ Concept Phoneที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตล้ำสมัย ฟังก์ชั่นการทำงานหลากหลาย ไม่ยึดติดกับรูปร่างลักษณะเดิมๆ ของโทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน ที่มาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น

Weather Cell Phone Concept
แนวคิดมือถือบอกสภาพดินฟ้าอากาศ ผลงานการออกแบบของ Seunghan Song มีจุดเด่นตรงตัวเครื่องทำจากวัสดุโปร่งใส ขนาดบางเฉียบ หน้าจอสามารถแสดงผลได้เต็มพื้นที่ตัวเครื่อง ใช้ระบบสัมผัสในการควบคุมการทำงาน สามารถตรวจวัดสภาพอากาศในปัจจุบันแล้วแสดงผลบนตัวเครื่องได้ อย่างเช่น อากาศปลอดโปร่ง หน้าจอจะใสแจ๋ว หากฝนตกตัวเครื่องก็จะมีหยดน้ำฝนเกาะอยู่ และถ้ามีหิมะตกหน้าจอก็จะเป็นฝ้าด้วยไอความเย็นของหิมะ และหากต้องการโทรออกหรือเขียนข้อความ เพียงแค่ใช้ปากเป่าลมไปยังหน้าจอ ก็สามารถเขียนตัวอักษรหรือวาดรูปต่างๆ ลงไปได้เลย


Mobile script Concept
Aleksander Mukomelov ออกแบบแนวคิดโทรศัพท์มือถือร่วมสมัย คล่องตัวในการใช้งาน ด้วยหน้าจอระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 9.5 นิ้วที่สามารถดึงเข้า-ออกจากตัวเครื่องด้านข้างได้

Projector Cell Phone Concept

นักออกแบบ Stefano Casanova นำเสนอผลงานแนวคิดสมาร์ทโฟนขนาดบางเฉียบ ติดโปรเจคเตอร์หรือเครื่องฉายภาพ ไว้ตรงกลางของตัวเครื่องรอยต่อระหว่างจอแสดงผลที่สามารถหมุนขึ้นได้กับแผง ปุ่มกด ผู้ใช้สามารถส่งภาพในโทรศัพท์ออกไปยังฉากหรือผนังเพื่อรับชมภาพในขนาดใหญ่ได้

Alarm Clock Cell Phone Concept

Carl Hagerling ออกแบบ แนวคิดโทรศัพท์มือถือนาฬิกาปลุก Sony Ericsson รูปทรงคล้ายนาฬิกาปลุกตั้งโต๊ะ มองเห็นเวลาชัดเจนด้วยรูปแบบนาฬิกาดิจิตอลขนาดใหญ่ มีเครื่องเล่น Walkman, ติดกล้องถ่ายรูป และใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด AAA 2 ก้อน


Pen Cell Phone Concept
แนวคิดโทรศัพท์มือถือรูปทรงปากกา ความสูง 8.7 นิ้ว ปุ่มกดตัวเลข 1-9 เรียงจากหัวปากกาไปด้านบน ถัดไปเป็นจอแสดงผล รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD Edge Cell Phone Concept
โทรศัพท์มือถือรูปทรงสไลด์ ที่มีแผงปุ่มกดโปร่งแสง ใช้ระบบสัมผัส ผลงานการออกแบบของ Chris Owens

Grass Cell Phone Concept
แนวคิดโทรศัพท์มือถือต้นหญ้า ของ Je-Hyun Kim เนื่องด้วยธรรมชาติสร้างสรรค์เทคโนโลยีให้ควบคู่กันไปได้อย่างลงตัว จึงไม่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เพราะมือถือต้นหญ้าเครื่องนี้ก็จะค่อยๆ ย่อยสลายตัวเองไปตามกาลเวลาภายในระยะเวลา 2 ปี


Mechanical Cell Phone Concept
Mikhail Stawsky ออกแบบแนวคิดโทรศัพท์มือถือพลังงานจากกลไกการหมุนตัวเครื่อง ด้วยการใช้นิ้วสวมลงไปในรูวงกลมแล้วหมุนโทรศัพท์ไปรอบๆ นิ้วมือ เพียงแค่นี้โทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ก็มีพลังงานเพิ่มขึ้นพร้อมด้วยหน้า จอแสดงผลระบบสัมผัสบอกสถานะการชาร์จ

Flexible Cell Phone Concept
แนวคิดโทรศัพท์มือถือกำไลข้อมือชิ้นนี้ เป็นผลงานการอกแบบของ Shirley A. Roberts ตัวเครื่องทำมาจากวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถโค้งงอ ยึดปลายทั้งสองเข้าหากัน ใช้เป็นกำไลข้อมือ พกพาไปไหนได้สะดวกมากขึ้น


Ear Cell Phone Concept
lshat Garipov ออกแบบโทรศัพท์มือถือ Kambala ตัวเครื่องมีขนาดบางเฉียบ มีลักษณะคล้ายคลิปหนีบ ดึงส่วนยื่นออกมาเกี่ยวกับช่องหู คล้ายหูฟัง วัสดุประกอบตัวเครื่องแต่ละชั้นใช้โพลิเมอร์สอดแทรกด้วยชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ และเซ็นเซอร์จำนวนมากสามารถตรวจจับผิวหน้าสัมผัสกับตัวเครื่องเปลี่ยนสีพื้น ผิวโทรศัพท์ให้เหมือนกับบริเวณที่ส่วมใสอยู่ ดูผิวเผินแล้วเหมือนกับโทรศัพท์ล่องหนได้


Internet Explorer 8 "ปลอดภัยยิ่งขึ้นเมื่อออนไลน์"



เมื่อเว็บไซต์มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น วิธีที่แฮกเกอร์และเว็บไซต์ประสงค์ร้ายต่างๆ พยามยามจะส่งไวรัส

เมื่อเว็บไซต์มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น วิธีที่แฮกเกอร์และเว็บไซต์ประสงค์ร้ายต่างๆ พยามยามจะส่งไวรัส สร้างความเสียหายให้กับคอมพิวเตอร์ ดึงข้อมูลส่วนตัว และตรวจสอบพฤติกรรมการออนไลน์ของคุณก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

หรือไม่ว่ามัลแวร์ คือซอฟต์แวร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความเสียหายให้กับคอมพิวเตอร์ของคุณ เช่น ไวรัสคอมพิวเตอร์ มัลแวร์อาจถูกดาวน์โหลดโดยที่คุณรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือไม่ได้อนุญาต

ฟิชชิ่ง คือช่องทางสำหรับอาชญากรในการดึงข้อมูลส่วนตัวของคุณ (เช่น หมายเลขบัตรเครดิต) โดยแสร้งว่าเป็นองค์กรที่ถูกกฏหมาย เช่น ธนาคารของคุณ Internet Explorer จะช่วยป้องกันการจู่โจมเหล่านี้ และอื่นๆ อีกมากมาย การให้บริการเบราว์เซอร์ที่ไว้วา่งใจได้นั้น หมายถึงเบราว์เซอร์ที่มีความปลอดภัยสูงและเชื่อถือได้ เป็นเบราว์เซอร์ที่เคารพการตัดสินใจของผู้ใช้งาน และช่วยให้ผู้ใช้งานควบคุมคอมพิวเตอร์และข้อมูลของตนเองได้

ตัวกรอง SmartScreen
ตัวกรอง SmartScreen ใหม่ของ Internet Explorer 8 ช่วยปกป้องคุณจากการติดตั้งมัลแวร์โดยไม่เจตนา หรือซอฟต์แวร์ที่มีเจตนาร้ายซึ่งเป็นอันตรายต่อข้อมูล ความเป็นส่วนตัว และข้อมูลเฉพาะตัวของคุณ และสามารถทำลายคอมพิวเตอร์และข้อมูลอันมีค่าของคุณ เราขอแนะนำให้คุณเปิดใช้งาน SmartScreen ซึ่งคุณสามารถเลือกเปิดหรือปิดการทำงานได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ คุณยังสามารถช่วยพัฒนาเว็บไซต์สำหรับทุกคนได้โดยแจ้งเว็บไซต์ที่สงสัยว่ามีเจตนาร้ายด้วยตัวกรองนี้ หากตัวกรอง SmartScreen ทำงานอยู่และคุณพยายามเรียกดูเว็บไซต์ที่พิจารณาแล้วว่าไม่ปลอดภัย หน้าจอด้านล่างนี้จะพร้อมท์ถามให้คุณเลือกดำเนินการอื่นๆ
เมื่อเปิดการทำงาน ตัวกรอง SmartScreen จะแจ้งเตือนเมื่อคุณพยายามดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ที่อาจเป็นอันตรายตัวกรอง Cross Site Scripting (XSS)

Internet Explorer 8 ขอแนะนำคุณสมบัติในการตรวจพบรหัสที่เป็นอันตรายบนเว็บไซต์ที่ละเมิดความปลอดภัย เพื่อช่วยปกป้องคุณจากการถูกหาผลประโยชน์ที่นำไปสู่การเปิดเผยข้อมูล การขโมยคุกกี้ การโจรกรรมบัญชีผู้ใช้/ข้อมูลประจำตัว และอื่นๆ การจู่โจมเหล่านี้เป็นการคุกคามทางออนไลน์ประเภทหลัก เราจึงได้รวม Cross Site Scripting ซึ่งเป็นตัวกรองชนิดใหม่ เพื่อให้คุณออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น

การเน้นโดเมน
การเน้นโดเมนทำให้คุณตีความที่อยู่เว็บต่างๆ (URLs) ได้ง่ายขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงเว็บไซต์ประสงค์ร้ายและฟิชชิ่งเว็บไซต์ที่พยายามลวงคุณด้วยที่อยู่เว็บซึ่งชวนให้เข้าใจผิด คุูณลักษณะนี้จะเน้นสีดำที่ชื่อโดเมนที่ปรากฏในแถบที่อยู่ และส่วนอื่นๆของ URL จะแสดงด้วยสีเทา เพื่อให้ระบุคุณลักษณะเฉพาะของเว็บไซต์นั้นๆ ได้ง่ายขึ้นด้วยสีเทา

Data Execution Prevention (DEP) (การป้องกันการดำเนินการข้อมูล)
การป้องกันการดำเนินการข้อมูล (DEP) ที่เปิดการทำงานตามค่าเริ่มต้นของ Internet Explorer 8 ใน Windows Vista Service Pack 1 นั้นเป็นคุณลักษณะเพื่อความปลอดภัยที่ช่วยป้องกันคอมพิวเตอร์ของคุณจากความเสียหายที่เกิดจากไวรัสคอมพิวเตอร์และการคุกคามความปลอดภัยต่างๆ โดยป้องกันไม่ให้มีการเขียนรหัสบางประเภทลงในพื้นที่หน่วยความจำที่ปฏิบัติการได้

Bluetooth 4.0 รับ-ส่งข้อมูลแรงกว่าเดิม รัศมีไกลขึ้น

มาตรฐานการรับ-ส่งข้อมูลไร้สาย Bluetooth ในเวอร์ชั่นใหม่ 4.0 เน้นประสิทธิภาพในการรับ-ส่งข้อมูลที่เร็วยิ่งขึ้น 1 Mbps รัศมีไกลถึง 100 เมตรThe Bluetooth Special Interest Group (SIG) เปิดตัวมาตรฐานการรับ-ส่งข้อมูลไร้สาย Bluetooth ในเวอร์ชั่นใหม่ 4.0 เน้นประสิทธิภาพในการรับ-ส่งข้อมูลที่เร็วยิ่งขึ้น 1 Mbps รัศมีไกลถึง 100 เมตร (จากเดิม 10 เมตร) แต่ใช้พลังงานน้อยลง สามารถนำไปใช้ในโทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์ให้ความบันเทิงภายในบ้าน, เครื่องมือแพทย์, สถานออกกำลังกาย รวมไปถึงยานพาหนะ สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เดิมที่ใช้เทคโนโลยี Bluetooth v2.1 +EDR หรือ Bluetooth v3.0 +

Alcatel OT-808 มือถือสำหรับนักแชท

อัลคาเทลแนะนำโทรศัพท์มือถือ Alcatel OT-808 ออกแบบมาในรูปทรงฝาพับ ตัวเครื่องสีเหลี่ยมจตุรัสโค้งมน พร้อมแป้นพิมพ์ QWERTY

อัลคาเทลแนะนำโทรศัพท์มือถือ Alcatel OT-808 ออกแบบมาในรูปทรงฝาพับ ตัวเครื่องสีเหลี่ยมจตุรัสโค้งมน พร้อมแป้นพิมพ์ QWERTY ด้านใน จอแสดงผลหลัก 320 x 240 พิกเซล กว้าง 2.4 นิ้ว (จอด้านหน้า OLED - 128 x 36 พิกเซล กว้าง 1.1 นิ้ว) รองรับเครือข่าย GSM Dualband การเชื่อมต่อ Bluetooth กล้องถ่ายรูป 2 ล้านพิกเซล เครื่องเล่นวิทยุ FM รับ-ส่ง Email, สนทนารูปแบบแชท และ สนับสนุนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ราคาประมาณ 4,150 บาท

การจัดภาพภายใน (Interior orientation )

การจัดภาพภายใน (Interior orientation ) เป็นการจัดวางข้อมูลภาพให้มีความสัมพันธ์กันในทิศทางแนวบิน เหมือนอยู่ในสภาวะเดียวกันกับเครื่องบินขณะบินถ่ายภาพ โดยใช้ข้อมูลกล้องถ่ายภาพ(Camera Calibration) ได้แก่ ค่าความยาวโฟกัส (focal length) ค่าพิกัดของจุดดัชนีขอบภาพ (fiducial marks) และค่าพิกัดจุดมุขยสำคัญ (principal point) โดยผู้ปฏิบัติจะเป็นคนหมายตำแหน่งจุดดัชนีขอบภาพแล้วทำการตรวจสอบความคลาดเคลื่อนในการวางตำแหน่งกับข้อมูลที่ได้ป้อนไว้ว่าอยู่ในเกณท์ที่กำหนดหรือไม่
การวัดค่าการวางตัวภายในของจุดดัชนี(Interior orientation)ซึ่งต้องมีการเปลี่ยนทิศทางการวางตัวของแนว X Y ของภาพตามเอกสารของการวัดสอบค่ากล้องก่อนทำการวัดจุดดัชนี และทำการวัดจุดดัชนีให้ครบทั้ง 8 จุด ทั้งสามภาพแล้วทำการตรวจค่า RMSE(Root Mean Square Error)โดยอย่าให้เกิน 10 ไมคอน ถ้าเกินต้องทำการปรับแก้จุดดัชนีที่ได้ทำการวัดไปให้ดีขึ้น ในปัจจุบันนี้กล้องถ่ายรูปทางอากาศจะมีเครื่องหมายดัชนี (Fiducial marks) 8 ตำแหน่ง(Fours of mid-side frames and fours of corner frames) และความยาวโฟกัสที่ผ่านการสอบเทียบ(Calibration focal length) บอกให้ผู้ใช้ทราบการลงตำแหน่งพิกัด (Registration) ของเครื่องหมายดัชนี4 หรือ 8 ตำแหน่ง พร้อมกับนำพิกัดที่ผ่านการสอบเทียบของตำแหน่งเครื่องหมายดัชนีมาแปลงเป็นค่าพิกัด

การวางจัดวางภาพภายนอก (Exterior orientation)


การวางจัดวางภาพภายนอก (Exterior orientation)/การปรับภายนอก/การปรับสัมบูรณ์ (Exterior or Absolute orientation)เป็นการปรับที่ปรับระยะห่างฐานดวงตาอย่างถูกต้องให้สอดคล้องกับฐานรูปถ่ายและมาตราส่วนของรูปถ่าย โดยการปรับระดับ ( Levelling ) แบบจำลองสามมิติให้หมุนรอบแกน X ( ด้วย ω ) หมุนรอบแกน Y ( ด้วย φ) และการเลื่อนตามแนวแกน Z ( Z translation / κ) ด้วยจุดควบคุมรูปถ่ายที่ทราบค่าพิกัดทางราบและทางดิ่งอย่างน้อย 3 จุด กล่าวโดยสรุปการปรับสัมบูรณ์ใช้พารามิเตอร์ 7 ตัว คือ การขยาย / หดมาตราส่วน 1 ตัว เมทริกซ์การหมุนรอบแกนทั้งสามของแบบจำลอง 3 ตัว และการเลื่อนตามแนวแกน 3 ตัว มีพารามิเตอร์การปรับภายนอก 6 ตัวแปร (Xo, Yo, Zo , ω, φ ,κ) จุดเปิดถ่าย 3 การเอียงรอบแกน 3

การรังวัดตำแหน่งจุดดัชนีขอบภาพ (Fiducial marks)


การวัดค่าการวางตัวภายในของจุดดัชนี(Interior orientation)ครบทั้ง 8 จุด ทั้งสามภาพแล้วทำการตรวจค่า RMSE(Root Mean Square Error)โดยอย่าให้เกิน 10 ไมคอน ถ้าเกินต้องทำการปรับแก้จุดดัชนีที่ได้ทำการวัดไปให้ดีขึ้นค่า RMSerror สามารถบอกได้ว่า จุดควบคุมภาคพื้นดินมีตำแหน่งพิกัดใกล้เคียงกับพิกัดอ้างอิงเพียงใด (มีหน่วยเป็นจุดภาพ) โดยทั่วไปค่า RMSerror ที่ยอมรับได้จะมีค่าบวกหรือลบไม่เกิน 1 จุดภาพ ถ้าค่า RMSerror มีค่าสูงแสดงว่าความคลาดเคลื่อนทางตำแหน่งมีมาก อย่างไรก็ตามการกำหนดจุด GCP ในตำแหน่งใหม่ที่เหมาะสมสามารถที่จะเพิ่มความถูกต้องของการแปลงค่าพิกัดได้
**********************************

จุดควบคุมภาพถ่ายภาคพื้นดิน (Ground Control Point)

จุดควบคุมภาพถ่ายภาคพื้นดิน (Ground Control Point) เป็นจุดบังคับภาพถ่ายที่เห็นเด่นชัดบนภาพถ่ายและชี้ชัดได้บนภาคพื้นดิน มีค่าพิกัดในทั้งสามมิติ มีการไปรังวัดในสนามด้วยเครื่องมือและวิธีการที่ให้ความละเอียดถูกต้องสูงในระดับที่สามารถนำมาควบคุมงานข่ายสามเหลี่ยมทางอากาศ จุดผ่าน (Pass Point) จุดควบคุมภาพถ่ายภาคพื้นดินที่มีการชี้ชัดตำแหน่งบนภาพถ่าย แต่ไม่จำเป็นต้องลงไปค้นหาและรังวัดค่าพิกัดในสนาม ปรากฏบนภาพถ่ายอย่างน้อยสองรูปขึ้นไป ตำแหน่งอยู่บนส่วนซ้อนด้านหน้าของภาพถ่ายทางอากาศ หรืออยู่ในส่วนซ้อนที่อยู่ในแนวบิน จุดโยงยึด (Tie Point) คุณสมบัติและบทบาทในการคำนวณปรับแก้เช่นเดียวกับจุดผ่านทุกประการ

การสร้างแบบจำลองค่าระดับความสูงภูมิประเทศ(Digital Terrain Model:DTM)

การสร้างแบบจำลองความสูง (Digital Terrain Model : DTM Extraction)เป็นกระบวนการสร้างแบบจำลองความสูงที่ได้จากการขยายจุดบังคับภาพถ่ายทางอากาศโดยแบบจำลองความสูงที่ได้นี้จะเป็นความสูงของพื้นผิวทางกายภาพของพื้นที่ซึ่งรวมถึงสิ่งปกคลุมพื้นผิวทางกายภาพของโลก (Digital Terrain) ซึ่งได้แก่ บ้าน อาคาร ต้นไม้ ป่าไม้ ดังนั้นความสูงที่ได้จึงยังไม่ใช่ความสูงที่ได้จากสภาพพื้นผิวจริงๆของโลก จึงจำเป็นที่จะต้องมีการปรับแก้เพื่อให้ได้ความสูงจริงของพื้นผิวโดยการ ปรับแก้แบบจำลองความสูง (DEM Editing) โดยใช้แบบจำลองคู่ภาพสามมิติ ( 3D Stereo) เพื่อทำการกำจัดความสูงของสิ่งปกคลุมดังกล่าวออกไปจากแบบจำลองเพื่อให้ได้แบบจำลองความสูง(Digital Elevation Model) จึงจะสารมารถนำเอาผลที่ได้จากการปรับแก้แบบจำลองแล้วไปสร้างเป็นเส้นชั้นความสูง (Contour line)

Mosaic

การเชื่อมต่อข้อมูลภาพ (Mosaic) เป็นการเชื่อมต่อหรือซ้อนภาพหลายภาพเข้าด้วยกันเพื่อรวมกันเป็นภาพเดียว ซึ่งจะทำให้ภาพที่ได้ใหม่มีขนาดของข้อมูลใหญ่ขึ้น กระบวนการในการเชื่อมต่อข้อมูลภาพนี้เรียกว่า Mosaic ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้สร้างภาพเพียงภาพเดียวจากข้อมูลดาวเทียมในบริเวณที่ติดกันหรือใกล้เคียงกันหลายๆ ภาพการทำ Mosaic จะได้ภาพใหม่ที่มีการลดหรือขจัดความแตกต่างระหว่างภาพในส่วนที่มีการซ้อนทับกัน (Overlap) ในบริเวณรอยต่อของทั้งสองภาพ เพื่อไม่ให้มีความเข้มระดับสีเทาที่แตกต่างกันมากนัก สำหรับข้อมูลภาพที่จะนำมา mosaic ข้อมูลภาพทั้ง 2 จะต้องมีขนาดของจุดภาพ (Pixel size) เท่ากัน และระบบตำแหน่งพิกัดของภาพเหมือนกันหลังจากที่มีการปรับแก้ทางเรขาคณิตแล้ว ขึ้นตอนในการ mosaic หลังจากที่นำภาพทั้ง 2 ซ้อนทับเข้าด้วยกัน บริเวณที่ซ้อนทับกันของภาพ (overlap) จะต้องมีการกำหนดตำแหน่งพิกัดใหม่โดยใช้จุดควบคุมทางภาคพื้นดิน (GCPs) เพื่อให้แต่ละจุดภาพมีการปรับแก้ทางตำแหน่งตรงกันจากนั้นจะทำการกำจัดจุดภาพที่ซ้ำซ้อน (Duplicate pixel) ที่อยู่ภายในบริเวณ overlap ของภาพทั้ง 2 ออกไปให้เหลือเพียงจุดภาพชุดเดียว แล้วทำการยืดค่าความคมชัดที่เหมาะสมกับจุดภาพทั้งหมดของข้อมูลภาพทั้งสองให้พร้อมกัน เพื่อให้ได้ภาพใหม่มีที่ระดับความเข้มที่สม่ำเสมอตลอดทั้งภาพ

การประมวลผลสัญญาณดิจิทัล


การประมวลผลสัญญาณดิจิทัล หรือ ที่เรียกกันติดปากสั้น ๆ ว่า ดีเอสพี (DSP - digital signal processing) เป็นการศึกษาการประมวลผลสัญญาณที่อยู่ในรูปดิจิทัล (digital)โดยทั่วๆ ไป การประมวลผลสัญญาณ อาจแบ่งได้ตาม:

1.รูปแบบของตัวแทนสัญญาณ : การประมวลผลสัญญาณดิจิทัล (digital signal processing) และ การประมวลผลสัญญาณแอนะล็อก (analog signal processing)

2.คุณสมบัติของสัญญาณ : การประมวลผลสัญญาณไม่สุ่ม (deterministic signal processing) และ การประมวลผลสัญญาณสุ่ม (stochastic/statistical signal processing)

3.ลักษณะการประมวลสัญญาณ : เชิงเส้น (linear signal processing) และ ไม่เป็นเชิงเส้น (nonlinear signal processing)

4.อื่นๆ ที่แบ่งตามคุณลักษณะเฉพาะของสัญญาณ หรือ ลักษณะเฉพาะของการประมวลผล เช่น adaptive signal processing, mutlirate/multiresolution signal processing, chaotic signal processing ฯลฯ

ดีเอสพีนี้อาจแบ่งออกได้เป็นในส่วนของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ หรือตามการประยุกต์เป็น การประมวลผลสัญญาณเสียง (audio signal processing) การประมวลผลภาพดิจิทัล (digital image processing) และ การประมวลผลคำพูด (speech processing)

ถึงแม้ว่าในดีเอสพีนั้น สัญญาณที่เราพิจารณากันจะเป็นดิจิทัล แต่โดยทั่วไปสัญญาณเหล่านี้จากแหล่งกำเนิด จะอยู่ในรูปเดิมที่เป็นแอนะล็อก การได้มาซึ่งสัญญาณดิจิทัลซึ่งเป็นตัวแทนสัญญาณแอนะล็อกที่เราสนใจนี้ จะต้องผ่านกระบวนการแปลงสัญญาณแอนะล็อกเป็นดิจิทัล (Analog-to-Digital Conversion - ADC) หรือการดิจิไทซ์ (digitization) ซึ่งประกอบด้วยการสุ่มตัวอย่าง (sampling) (อย่าสับสนกับคำว่า สุ่ม ที่มาจาก random หรือ stochastic) และการควอนไทซ์ (quantization) ให้อยู่ในรูปดิจิทัลก่อนที่จะทำการประมวลผลต่อไป

Image Enhancement


Image Enhancement คือ กระบวนการปรับปรุงภาพให้ดีขึ้นเพื่อประโยชน์การแปลภาพด้วยการมองด้วยตา (Visual Interpretation) โดยที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อภาพ สามารถแบ่งได้เป็น 2 domains: Spatial Domain และ Frequency DomainNoise คือ การแปรปรวนโดยไม่ได้คาดหวังของความเข้มของแสง (Gray Scale) ของภาพHistogram คือ กราฟแสดงการกระจายของความเข้มของแสง (Gray Scale) ของภาพในทางสถิติ การกระจายข้อมูลของ Histogram ที่สมบูรณ์ควรเป็นรูประฆังคว่ำที่มีสมมาตรของการกระจายแบบปกติ (Normal Distribution)ดังนั้น สิ่งแรกในการทำ Image Enhancement คือ การตรวจสอบ Histogram ของ Image นั้นๆ

การยืดภาพเพื่อเน้นความชัดเจน (Contrast Enhancement or Contrast stretching)

สำหรับเทคนิคการยืดค่าระดับสีเทานี้สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ

(1) Linear Contrast Stretch เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการปรับระดับค่าสีเทา (gray scale level) หรือค่าความสว่างให้มากขึ้น ด้วยการขยายพิสัย (Range) ของระดับค่าสีเทาของข้อมูลเดิมให้มีค่ามากยิ่งขึ้นจนเต็มช่วง 0-255 โดยใช้กราฟปรับเทียบ (lookup table) ที่มีลักษณะเป็นเส้นตรง เช่น เทคนิค Standard deviation linear contrast stretch,Minimum-Maximum contrast stretch หรือ Data scaling เป็นต้น

(2) Non-Linear Contrast Stretch เป็นการยืดระดับค่าสีเทาของข้อมูลภาพ โดยใช้ความสัมพันธ์ที่ไม่ใช่ลักษณะเชิงเส้นตรง จุดประสงค์ในการใช้วิธีนี้คือ พยายามเปลี่ยนการกระจายข้อมูลที่ไม่ปกติให้เป็นแบบปกติและปรับจำนวนจุดภาพในแต่ละค่าความเข้มให้มีจำนวนใกล้เคียงกัน ซึ่งเทคนิคแบบนี้เรียกว่า “Histogram equalization stretching” หรือการยืดภาพตามความถี่ของข้อมูล นอกจากนี้การยืดข้อมูลภาพแบบ Non Linear Contrast Stretch ยังมีเทคนิคแบบอื่นๆ อีก เช่นHistogram normalization, Logarithmic, Exponential, หรือ Gaussian เป็นต้น

(3) Piecewise Contrast Stretch เป็นการเลือกยืดระดับค่าสีเทาของข้อมูลภาพเป็นช่วงที่เฉพาะเจาะจง(Specific portion of data) โดยแต่ละช่วงอาจจะกำหนดพิสัยของการยืดแตกต่างกันไป หลักการคือ พิสัยของระดับค่าสีเทาของข้อมูลเดิมที่ต้องการขยายนั้น จะถูกแบ่งออกเป็นหลายๆ ช่วง และในแต่ละช่วงจะขยายให้เป็นค่าใดๆ ก็ได้ตามต้องการ แต่ต้องต่อเนื่องกันไปจนตลอดช่วง 0-255สำหรับเทคนิคการปรับเน้นภาพโดยวิธีการยืดข้อมูลภาพ อาจจะมีนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น เช่น HistogramMatching, Threshold, Gamma, Constant Value, Invert หรือ Brightness and Contrast เป็นต้น นอกจากนี้การปรับเน้นภาพโดยเทคนิคการยืดระดับค่าสีเทาของข้อมูลภาพนี้ ผู้ใช้สามารถที่จะทำการกำหนดหรือสร้างกราฟปรับเทียบ (lookup table) เองได้โดยให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ที่ต้องการด้วยการใช้เครื่องมือ “Break Point Editor” ของโปรแกรม ERDAS IMAGINE

การเน้นภาพเชิงพื้นที่ (Spatial enhancement or Spatial and Directional Filtering )

การเน้นภาพเชิงพื้นที่จะปรับเปลี่ยนค่าของจุดภาพนั้นๆ ตามค่าของจุดภาพที่อยู่โดยรอบ (Surrounding pixels) สำหรับการปรับเน้นคุณภาพของข้อมูลภาพวิธีนี้ เป็นเทคนิคที่จะกรองข้อมูลโดยอาศัยหลักการทางคณิตศาสตร์ที่เรียกว่า “Convolutionfiltering” ซึ่งจะใช้หน้าต่างกรอง (Kernel) ในลักษณะ 2 มิติ โดยเลื่อนหน้าต่างให้ตารางที่อยู่ศูนย์กลางวิ่งผ่านทีละจุดภาพ (pixel)แล้วแทนค่าจุดภาพนั้นๆ ด้วยค่าเฉลี่ยหรือกรรมวิธีทางคณิตศาสตร์อื่นๆ ของบรรดาจุดภาพข้างเคียงภายในหน้าต่างกรอง ซึ่งมีด้วยกันหลายวิธี สำหรับในบทปฏิบัติการนี้จะกล่าวเฉพาะวิธีพื้นฐาน คือ Low Pass Filtering และ High-Pass Filtering

(1) Low Pass Filtering (LPF)
Low Pass Filtering เป็นการเน้นภาพเชิงพื้นที่ ด้วยการลดระดับความถี่เชิงพื้นที่ของข้อมูลภาพ(Spatial frequency) ทำให้ภาพที่ได้ใหม่มีลักษณะเรียบ (Smooth) หรือพร่ามัว (Blur) มากขึ้น หลักการของเทคนิคการเน้นภาพแบบนี้ จะทำการคำนวณระดับค่าสีเทาของแต่ละจุดภาพด้วยการหาค่าเฉลี่ย (Average) ของระดับค่าสีเทาเดิมรอบจุดภาพนั้น ด้วยจำนวน n x m จุดภาพ ค่า n และ m จะต้องเป็นเลขคี่เสมอ เช่น 3 x 3, 5 x 5, หรือ 7 x 7 เป็นต้น ขนาด n x m เรียกว่าKernel หรือ BOXCAR ในกรณีที่หน้าต่างกรองมีขนาดเล็กไม่สามารถทำให้ภาพเรียบ อาจเลือกใช้หน้าต่างกรองที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมา แต่จะเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อการสูญเสียรายละเอียดของข้อมูลจริงในภาพขึ้นด้วย

(2) High Pass Filtering (HPF)
High-Pass Filtering เป็นเทคนิคที่ใช้เน้นข้อมูลภาพบริเวณที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน เช่นเส้นขอบอ่างเก็บน้ำ หรือชายฝั่งทะเล วิธีปฏิบัติคือจะทำการกรองภาพให้เรียบก่อนโดยทำ Low pass filtering (LPF) แล้วนำค่าระดับสีเทาที่ได้ในแต่ละจุดภาพของ LPF ไปลบออกจากค่าความเข้มของข้อมูลภาพเดิม (original data) จะได้ภาพใหม่อีกภาพหนึ่งที่แสดงผลต่าง ซึ่งจะใช้ภาพที่แสดงผลต่างที่ได้นี้เป็นส่วนของการเน้นภาพ โดยบวกกลับเข้าไปในภาพเดิม ทำให้ได้ภาพที่มีการเน้นขอบ (Edge enhancement) ที่ชัดเจนขึ้น

Raster / Vector และ Pixel

Vector Graphicภาพแบบเวกเตอร์จะต่างจากภาพแบบบิตแมป ซึ่งคุณจะได้พบกับภาพแบบนี้บนโปรแกรม สำหรับวาดภาพเช่น Adobe Illustrator,Macromedia Freehand ภาพแบบเวกเตอร์จะประกอบด้วย เส้นสาย ลวดลายต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นจากการคำนวณทางคณิตศาสตร์ของลักษณะทางเรขาคณิตเพื่อ สร้างรูปทรงต่าง ๆ ที่คุณเห็น ซึ่งเรียกว่าเวกเตอร์ (vectors)ข้อดีของภาพแบบเวกเตอร์ที่มีเหนือภาพแบบบิตแมป คือ คุณสามารถเคลื่อนย้าย ปรับขนาด เปลี่ยนสี รูปทรง โดยไม่สูญเสียคุณภาพของภาพ เพราะภาพแบบเวกเตอร์ เป็นภาพที่ไม่ขึ้นกับ ความละเอียด นั่นคือสามารถปรับขนาดและพิมพ์ที่ความละเอียดใด ๆ โดยไม่สูญเสียรายละเอียด และคุณภาพ ดังนั้นภาพแบบเวกเตอร์จึงเหมาะกับภาพลายเส้นต่าง ๆ เช่น ตัวอักษร โลโก้
ภาพแบบบิตแมป หรือที่เรียกกันว่าแบบราสเตอร์ (raster) ภาพแบบบิตแมปนี้จะใช้ กริดของตารางเล็ก ๆ ที่เรารู้จักกันดีในชื่อ “พิกเซล” (pixel) สำหรับแสดงภาพ แต่ละพิกเซลก็จะมีค่าของตำแหน่งและค่าสีของตัวเอง ด้วยเหตุที่พิกเซลมีขนาดเล็กเราจึงเห็นว่าภาพ มีความละเอียดสวยงามไม่มีลักษณะของกรอบสี่เหลี่ยมให้เห็น แต่ถ้าเราขยายขนาดของภาพ ก็จะเห็นกรอบเล็ก ๆ หรือพิกเซลที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นภาพ ดังนั้นนเมื่องคุณทำงานกับภาพแบบมิตแมป จึงเป็นทำงานกับพิกเซลเล็ก ๆ ที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นภาพ ไม่ใช่วัตถุหรือรูปทรงที่เห็น ภาพแบบบิตแมปเป็นภาพที่ขึ้นอยู่กับความละเอียด (resolution)นั่นคือ มีจำนวนพิกเซลที่แน่นอนในการแสดงภาพ

Pixelพิกเซล (Pixel) เป็นการผสมผสานของคำว่า “Picture” และ “element” คือหน่วย พื้นฐานของภาพ ภาพบิตแมปทุก ๆ ภาพประกอบขึ้นด้วยพิกเซล แต่ละพิกเซลจะมีลักษณะ เป็นรูปสี่เหลี่ยมที่เก็บข้อมูลของสีโดยถูกกำหนตำแหน่งไว้บนเส้นกริดของแนวแกน x และ y ในลักษณะคล้ายแผนที่ (map) นั่นจึงเป็นที่มาของคำว่าบิตแมป (bitmap) เช่น พิกเซลของ ภาพ 8 บิต จะเก็บข้อมูลของสี 8 บิต ที่จอภาพจะใช้ในการแสดงผล ดังนั้นภาพภาพหนึ่งจึงประกอบด้วยพิกเซลเล็ก ๆ จำนวนมาก ซึ่งคุณสามารถมองเห็นได้เมื่อ ขยายภาพให้มีขนาดใหญ่ขึ้น จำนวนของพิกเซล

วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

รวมโปรแกรมกู้ข้อมูลจากอาร์ดดิส,ทรั้มไดรว์,cd,dvd กู้ข้อมูลที่โดนลบ ถูกฟอร์แมต

วันนี้ตอนเช้าได้เข้าไปอ่านกระทู้ใน blognone เลยเจอกระทู้ที่เค้าเขียนไว้เรื่อง รวมโปรแกรมกู้ข้อมูลจากอาร์ดดิส,ทรั้มไดรว์,cd,dvd กู้ข้อมูลที่โดนลบ ถูกฟอร์แมต เลยเข้าไปยังเว็บเจ้าของข้อมูลเพื่อนำโปรแกรมบางส่วนมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกัน แต่ว่าเราไม่สามารถให้โหลดตัวโปรแกรมได้นะครับ ถ้าต้องการโหลดจริง ๆ ต้องเข้าไปยังเว็บโดยตรงเลยค่ะ (ลองอ่านกันดูนะค่ะเผื่อจะนำไปใช้งานได้บ้าง)เรามาเริ่มกันที่โปรแกรมแรกกันเลยดีกว่านะค่ะ

1. O&O MediaRecoveryเป็นโปรแกรมสำหรับกู้ไฟล์ภาพ, วีดิโอและเพลงที่เสีย

2. Easy Recoveryโปรแกรมกู้ข้อมูลที่หายหรือถูกลบกลับคืนมาจากฮาร์ดดิสก์

3. Paragon Drive Backupโปรแกรมสำหรับทำการสำรองข้อมูลจากฮาร์ดไดร์ฟ

4. UndeleteMyFilesโปรแกรม กู้ข้อมูล และลบไฟล์ถาวร เช่นการลบโดยกด Shift+Delete

5. Paragon Drive Copyโปรแกรมจัดการ Harddisk

6. BadCopyโปรแกรมที่ทำหน้าที่ในการดึงข้อมูลในส่วนที่เสียหายกลับคืนมา

7. Acronis True Image 9.0 Build 2273โปรแกรมกู้คืนข้อมูลที่ถูกลบ

8. FreeUndeleteโปรแกรมฟรีแวร์ที่ใช้เพื่อกู้คืนไฟล์ที่ถูกลบอย่างไม่ตั้งใจใน file system แบบ NTFS, FAT32 หรือ FAT16

9. Active@ Disk Image 3.1.8โปรแกรมแบ็คอัพข้อมูล โคลนนิงฮาร์ดดิสก์

10. Power Data Recoveryโปรแกรมกู้ข้อมูลใหม่ สุดยอด!

11. Easy Photo Recoveryโปรแกรมสำหรับกู้รูปถาพของคุณกลับคืนมาเมื่อถูกลบทิ้งไปจาก memory cards ครับ ไม่ว่าจะจาก ดิจิตอล SD, MMC, memory stick และอื่นๆ อีกมากมาย

12. Symantec Norton Save & Restoreโซลูชั่นประสิทธิภาพสูงที่ให้การสำรองและกู้คืนข้อมูล

13. Recuva โปรแกรมกู้ไฟล์เป็นโปรแกรมที่เอาไว้สำหรับกู้ไฟล์ที่ถูกลบไป

14 . Data Rescue IIโปรแกรมอันยอดเยี่ยมสำหรับกู้ข้อมูล เวอร์ชันใหม่นี้มาพร้อมกับอินเทอร์เฟสที่ใช้งานได้ง่ายขึ้น

15. Avira UnErase Personalฟรีโปรแกรมกู้ไฟล์อีกหนึ่งตัวจากค่ายผู้ผลิต AntiVir ฟรีโปรแกรมป้องกันไวรัสชั้นดีอีกเช่นกัน

16. R-Studioสุดยอดโปรแกรมกู้ข้อมูลได้ทุกสถานการณ์

17. DiskInternals FAT Recoveryโปรแกรม ที่สามารถกู้ข้อมูลขึ้นมาจาก Disk ที่เสียหรือ ถูก Format ได้

18. CDRollerโปรแกรมดังใช้กู้ข้อมูลจาก CD และ DVD ที่สะดุดหรือเกิดปัญหา

19. Free Undeleteโปรแกรมดีๆที่ช่วยสำหรับคนมือไว (คลิกลบผิดแล้วดันเป็นงานสำคัญ) โปรแกรมนี้เค้าเอาไว้ใช้ตอนที่เราเผลอหรือว่ามีลูกหลานๆเด็กเค้าเผลอลบอะไรออกแล้ว โดยที่ไม่รู้ตัวแล้วก็เราก็ไม่รู้ด้วยว่ามันหายไปได้ยังไงกัน แต่ว่าไม่ได้มีเอาไว้ให้เรียกภาพที่ถ่ายๆกับกลับออกมาที่คิดว่าลบไปแล้วจะเอากลับมาไม่ได้นะครับ ซึ่งโปรแกรมนี้ก็เป็น Freeware หรือของฟรีที่จะทำหน้าที่แบบนั้นได้ครับ แค่ว่าไม่สนับสนุนครับผม เอาเป็นว่าคนที่ไม่เคยรู้ว่า หากว่าเรามีไฟล์ถึงแม้ว่าจะทำการลบแล้วแบบ ลบไปเลยไม่ได้เก็บเข้า recycle Bin (ถังขยะ) โดยการกด shift+delete มันก็เป็นเหมือนกับแค่การบอกเครื่องคอมว่า เอ้อ..พื้นที่ตรงนี้นะให้คิดซะว่าไม่มีอะไรแล้ว อยากเอาไฟล์อะไรมาทับก็ได้ เท่านั้นเอง มันไม่ได้ทำการลบไปจริงหรอก รูปแบบ 0011 อะไรมันก็ยังอยู่เหมือนเดิมนะหละครับไม่ได้ไปไหน เพราะฉะนั้น โปรแกรมพวกนี้ก็จะทำการ recovery หรือเรียกว่ากู้คืนมาได้
คนที่ถ่ายภาพมือถือก็อาจจะโดนโปรแกรมพวกนี้ scan ดูว่าอืม..มีภาพอะไรเหรอป่าวนะใครเครื่องก่อนทีจะลงมือซ่อม (คิดว่าน่าจะเป็นวิธีการที่ภาพมันหลุดๆได้เป็นปกติ เหมือนกับที่กรณีอาเจียวอะไรนั่นที่หลุดออกมาจนโด่งดังได้สักพัก) พวกช่างซ่อมพวกนี้ไม่ได้คิดว่าจะเจออะไรมากมายหรอกนะครับ แค่ว่าเค้าตื่นเต้นที่อยากจะทำผิดกฏหมายแบบไม่รู้ตัวแล้วก็คิดเป็นตุเป็นตะว่าไม่เป็นไรเท่านั้นเองครับ เอาเป็นว่าคนที่อ่านบทความนี้หรือว่าติดตามข่าวในช่วงที่อาเจียวภาพหลุดดังก็น่าจะหาความรู้มาอยู่เหมือนกันว่ามันหลุดออกมาได้อย่างไรกันแล้ว (หรือว่าอ่านถึงตอนนี้แล้วไม่รู้ก็ต้องรู้แล้วหละครับว่ามันกู้คืนได้)

20. Deep Freeze Standard โปรแกรมย้อนคืนระบบ เพื่อปกป้องฮาร์ดดิสก์
โปรแกรมอีกตัวหนึ่งที่น่าใช้ โดยตัวโปรแกรมจะทำหน้าที่ย้อนกลับไป ณ จุดที่เราเซฟไว้ล่าสุด อย่างเช่น ถ้าคุณเซฟไว้ ณ วันที่ 1 เมษายน เวลา 12.00 น. แล้วคุณใช้งานไปแล้วมีปัญหา ก็ย้อนกลับมาเมื่อวันที่ 1 เมษายน เวลา 12.00 น. ไฟล์ทุกอย่างจะกลับไป ณ วันที่ 1 เมษายน เวลา 12.00 น. (ต้องระวังไฟล์ที่เราเซฟไว้หลังจากนี้ จะหายไปด้วยครับ) ประโยชน์ของตัวโปรแกรมคือ ถ้าวินโดว์คุณรวน ก็สามารถย้อนกลับไปในเวลาที่ตัววินโดว์ไม่มีปัญหา สำหรับร้านเน็ตน่ามีติดไว้ดีกว่า GoBack เยอะ ไม่ช้า และโปรแกรมจะไม่ครอบคลุมและเปลี่ยนแปลงทุก Partition ใน Harddisk คือเลือกกำหนดได้ หรือสร้างไดร์ฟขึ้นเองได้เพื่อเก็บงาน,เกม โดยเฉพาะ แต่โปรแกมนี้จ่ะย้อนเวลากลับคืน ทุกครั้งที่เปิด Windows เลือกช่วงเวลาไม่ได้ ไม่เหมือน GoBack แต่ถ้าส่วนบุคคลก็ GoBack หรือ Recovery Genius น่าจะเหมาะกว่า แต่ Deep จะกันพวก boot sector viruses ไม่ได้เหมือน GoBack , Recovery Genius (แต่สมัยนี้คงไม่มีแล้วมั้ง เหมือนของหายากที่ไม่อยากเจอ)

21. Recover My File สุดยอดโปรแกรมกู้ไฟล์ที่โดนลบไปแล้ว
ใครที่เป็นคนขี้หลงขี้ลืม ลบนู้นลบนี้แล้วเผอิญดันเป้นไฟล์ที่สำคัญๆ ทำยังไงดีล่ะทีนี้ ไม่ต้องกังวลเลยเพียงแค่คุณใช้โปรแกรมนี้ คุณก็สามารถนำไฟล์ที่คุณลบออกไป หรือ แม้กระทั่งคุณเผลอ Format ไปแล้วก็ตาม

สามารถกู้ไฟล์ได้แทบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นไฟล์เอกสาร รูปภาพ เพลง ต่าง ๆ ตลอดจน ไฟล์ของฐานข้อมูล ผู้ใช้งานสามารถเรียกใช้งานได้โดย Program files > Recover My Files > Recover My Files และเมื่อเข้าสู่โปรแกรมผู้ใช้งานสามารถกู้ไฟล์ที่เคยลบไปแล้วกลับมาได้โดย เลือกตำแหน่งที่ตั้งของโฟลเดอร์หรือไดรฟ์ จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Next และ เลือกชนิดของไฟล์ที่ต้องการจะค้นหาและทำการกู้ค่ะ

ปล. เป็นไงบ้างค่ะโปรแกรมที่เรานำมาให้ได้รู้จักกัน คิดว่าหลาย ๆ ท่านคงจะนำไปใช้ประโยชน์ได้เยอะเลยนะค่ะ

ที่มาของข้อมูล : http://www.recovery.software.data.hothitvideo.com/restore/tool

เรียบเรียงโดย : Sonia

ข้อคิดคำคม จาก ขงเบ้ง

· ข้อคิดคำคมอันที่หนึ่ง จาก ขงเบ้ง
ถ้าเป็นกษัตริย์แล้ว ไม่โลภ ก็เป็นกษัตริย์ ที่ดีไม่ได้
· ข้อคิดคำคมอันที่สอง จาก ขงเบ้ง
เล่นหมากรุก อย่าเอาแต่บุกอย่างเดียว เดินหมากรุกยังต้องคิด เดินหมากชีวิต จะไม่คิดได้อย่างไร
· ข้อคิดคำคมอันที่สาม จาก ขงเบ้ง
ถ้าเป็นนักบวชแล้ว โลภ ก็เป็นนักบวช ที่ดีไม่ได้
· ข้อคิดคำคมอันที่สี่ จาก ขงเบ้ง
เมื่อเสียหลักก็ต้องหลบอย่างฉลาด เมื่อพลั้งพลาดต้องรู้หลีกใส่ปีกหาง ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆทำ ค่อยคลำทาง จึงจะย่างสู่จุดหมายเมื่อปลายมือ
· ข้อคิดคำคมอันที่ห้า จาก ขงเบ้ง
เมื่อใครสักคนหนึ่ง ทำผิด ท่านอย่าเพิ่งตำหนิหรือต่อว่าเขา เพราะถ้าท่านเป็นเขาและตกอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นเดียวกับเขา ท่านอาจจะตัดสินใจทำเช่นเดียวกับเขาก็ได้
· ข้อคิดคำคมอันที่หก จาก ขงเบ้ง
ไม้คดใช้ทำขอ เหล็กงอใช้ทำเคียว แต่ คนคดเคี้ยวใช้ทำอะไรไม่ได้เลย
· ข้อคิดคำคมอันที่เจ็ด จาก ขงเบ้ง
เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "ไม่" หล่อนมีความหมายว่า "อาจจะ" เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "อาจจะ" หล่อนมีความหมายว่า "ใช่ หรือ ได้" เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "ใช่ หรือ ได้" หล่อนไม่ใช่สุภาพสตรี
· ข้อคิดคำคมอันที่แปด จาก ขงเบ้ง
ยามเรืองรุ่งพุ่งเปรี้ยงดุจเสียงฟ้า แม้เทวายังสยบหลบทางให้ จะหยิบดาวเดือนชมก็สมใจ คงร้องไห้วันหนึ่งแน่ คราวแพ้มี
· ข้อคิดคำคมอันที่เก้า จาก ขงเบ้ง
อำนาจที่ปราศจากเหตุผล คือ อำนาจของคนพาล
· ข้อคิดคำคมอันที่สิบ จาก ขงเบ้ง
เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย ดังนี้แล้ว "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"
· ข้อคิดคำคมอันที่สิบเอ็ด จาก ขงเบ้ง
ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด ผู้ที่มีเกียรติ คือ ผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น
· ข้อคิดคำคมอันที่สิบสอง จาก ขงเบ้ง
การบริหารคือการทำงานให้สำเร็จโดยอาศัยมือผู้อื่น ผู้ปกครองระดับธรรมดา ใช้ความสามารถของตนอย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับกลาง ใช้กำลังของคนอื่นอย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับสูง ใช้ปัญญาของคนอื่นอย่างเต็มที่
· ข้อคิดคำคมอันที่สิบสาม จาก ขงเบ้ง
เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน
· ข้อคิดคำคมอันที่สิบสี่ จาก ขงเบ้ง
อย่าไล่สุนัขให้จนตรอก อย่าต้อนคนให้จนมุม
· ข้อคิดคำคมอันที่สิบห้า จาก ขงเบ้ง
ตาสามารถมองเห็นสิ่งที่ไกลได้ แต่ไม่สามารถ มองเห็นคิ้วของตน
· ข้อคิดคำคมอันที่สิบหก จาก ขงเบ้ง
น้ำไหลลงสู่ที่ต่ำฉันใด เราก็กลายเป็นคนฉลาดในช่วงเวลาลำบากฉันนั้น
· ข้อคิดคำคมอันที่สิบเจ็ด จาก ขงเบ้ง
มียอดขุนพล มีคนฉลาด แต่หากชิงผลประโยชน์ก่อกวนกันเอง ย่อมมิอาจครองแผ่นดิน
· ข้อคิดคำคมอันที่สิบแปด จาก ขงเบ้ง
ฉลาดแต่แต่เข้าข้างคนผิด ชีวิตก็บัดซบ ฉลาดแต่เข้ากับใครไม่ได้ ก็ไร้ประโยชน์ ฉลาดแต่ขาดคุณธรรม ไม่ทำให้เจริญ
· ข้อคิดคำคมอันที่สิบเก้า จาก ขงเบ้ง
คนฉลาดปราดเปรื่อง เขานั่งนิ่งสงวนคม

กว่าจะได้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัสจรรย์ของโลก

















วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

การสุ่มตัวอย่างซ้ำ (Resampling)

การสุ่มตัวอย่างซ้ำ หรือ Resampling เป็นกระบวนการปรับแก้ค่าระดับสีเทาหรือเป็นการสร้างข้อมูลภาพใหม่หลังจากการแก้ไขด้านตำแหน่งของข้อมูลดาวเทียมแล้ว ขนาดและตำแหน่งของจุดภาพจะเปลี่ยนแปลงไป จึงต้องปรับค่าระดับสีเทาของข้อมูลใหม่โดยการ Resampling Interpolation เพื่อให้ได้ค่าระดับค่าสีเทาที่สอดคล้องกับตำแหน่งที่เปลี่ยนแปลงวิธี Resampling หรือการสร้างจุดภาพใหม่ ขนาดของจุดภาพ (Pixel size) ใหม่อาจจะมีขนาดเท่าเดิมหรือเปลี่ยนแปลงก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นกับการกำหนดของผู้ใช้ สำหรับการแทนค่าตัวเลขลงในจุดภาพใหม่มี 3 วิธี คือ
(1) Nearest neighbor substitution เป็นวิธีแทนด้วยค่าระดับสีเทาของจุดภาพเดิมที่อยู่ใกล้ที่สุดกับจุดภาพที่ทำการสุ่มตัวอย่างซ้ำ วิธีนี้ค่อนข้างง่ายและใช้เวลาในการคำนวณน้อย แต่ให้ความถูกต้องไม่สูงนัก
(2) Bilinear interpolation เป็นการหาความสัมพันธ์เชิงเส้นคู่ โดยการสมมุติให้ค่าความต่างระหว่างจุดภาพเดิม 4 จุดภาพ
(3) Cubic convolution ค่อนข้างจะซับซ้อนและใช้เวลาในการประมวลผลนานกว่า 2 วิธีแรก จะใช้ค่าระดับสีเทาของจุดภาพที่อยู่ใกล้ชิดกับจุดภาพที่จะทำการสุ่มตัวอย่างซ้ำจำนวน 9 หรือ 16 จุดภาพในการคำนวณค่าใหม่ วิธีนี้จะสร้างความสัมพันธ์ในลักษณะโพลีโนเมียลระดับสูง (มากกว่า 1st order)

ในการดำเนินการในลักษณะนี้ข้อมูลจะได้ระบบการกรองหรือเฉลี่ยให้เรียบขึ้นตามปริมาณจุดภาพเดิมที่ใช้ ซึ่งในกรณีที่ผู้ใช้จะต้องทำการปรับภาพให้คมชัด (Sharp) ก็อาจจะเลือกใช้วิธี Nearest neighbor substitution แล้วจึงทำการปรับภาพให้เรียบด้วยซอฟต์แวร์ในภายหลัง ซึ่งจะง่ายและประหยัดเวลามาก สำหรับวิธี Bilinear interpolation ภาพใหม่ที่ได้จะมีเนื้อภาพเรียบ (Smooth) แต่จะใช้เวลาในการคำนวณนานกว่าวิธีวิธี Nearest neighbor ในขณะที่วิธี Cubic convolution จะให้ภาพที่มีลักษณะเนื้อภาพคมชัดขึ้น (ภาพที่ 6.13) แต่จะใช้เวลาในการคำนวณนานกว่า 2 วิธีแรก และค่าระดับสีเทาที่ได้ในแต่ละจุดภาพอาจจะแตกต่างไปจากจุดภาพเดิมมาก เพราะได้จากการคำนวณของจุดภาพข้างเคียง อย่างไรก็ดีในการที่จะเลือกวิธีการสร้างจุดภาพใหม่ด้วยวิธีใดจะขึ้นกับการวินิจฉัยของผู้ใช้เพื่อให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน

การสำรวจด้วยภาพถ่ายทางอากาศเชิงเลขเพื่อผลิตแผนที่

การสำรวจด้วยภาพถ่ายทางอากาศเชิงเลขเพื่อผลิตแผนที่Digital Photogrammetry for Map



การสำรวจด้วยภาพถ่ายทางอากาศจะมีการทำงานอยู่ 3 รูปแบบ [1] คือ แบบกระทำด้วยมือ (Analog) แบบใช้เครื่องมือวิเคราะห์ (Analytical) และแบบใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ (Digital) ในกระบวนการทำแผนที่ด้วยภาพถ่ายทางอากาศจำเป็นต้องทราบตำแหน่งของวัตถุต่างๆ บนภาพถ่ายที่สัมพันธ์กับพื้นดินเพื่อให้ตำแหน่งของวัตถุบนภาพมีความถูกต้องสูงและเชื่อถือได้ก่อนนำไปสร้างเป็นแผนที่เชิงเลขที่แสดงผลบนเครื่องคอมพิวเตอร์หรือทำแผนที่จากฟิลม์ อีกทั้งยังสามารถใช้การซ้อนทับระหว่างการถ่ายภาพทางอากาศที่มีค่าร้อยละ 60 ไปสร้างเป็นแผนที่สามมิติได้อีกด้วย ดังนั้นการสำรวจภาพถ่ายทางอากาศเชิงเลขจึงมีขั้นตอนและรายละเอียดที่ซับซ้อนและต้องมีความรู้ในกระบวนการทำงานเพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีความถูกต้องสูงเหมาะสมกับการนำไปใช้งานกระบวนการสร้างแผนที่จากการสำรวจด้วยภาพถ่ายทางอากาศเชิงเลขจึงมีขั้นตอน 6 ขั้นตอนหลักๆ ดังนี้



1. การวางแผนและกำหนดพื้นที่ถ่ายภาพบริเวณที่ต้องการ

2. ถ่ายภาพและแปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปของเชิงเลข

3. ปรับแก้ภาพถ่ายให้เป็นภาพถ่ายดิ่งจริง

4. กำหนดแผนที่ฐานและหมุดควบคุมของภูมิประเทศที่ถ่ายภาพ

5. ประมวลผลเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างภาพถ่ายทางอากาศและพื้นดิน

6. สร้างแผนที่และจัดพิมพ์

การแปลงค่าพิกัด (Co-ordinate transformation)

กระบวนการ Transformation หรือการคำนวณและทดสอบเมตริกแปลง เป็นกระบวนการดึงภาพที่บิดเบือนให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและใกล้เคียงความเป็นจริง โดยมีจุด GCP ที่เลือกไว้เป็นจุดตรึงตำแหน่งต่างๆ ในขั้นตอนนี้จะคำนวณค่าจากจุดควบคุมทางภาคพื้นดินที่กำหนดลงไปบนภาพ ผลการคำนวณจะระบุค่าความคลาดเคลื่อนเฉลี่ย (root meansquare;RMS.) ของแต่ละจุดโดยมีหน่วยเป็นระยะทางระหว่างตำแหน่งของจุดควบคุมทางภาพพื้นดินและจุดควบคุมทางภาคพื้นดินที่คำนวณขึ้นใหม่ ค่าความคลาดเคลื่อนจะมีหน่วยเป็นจำนวนจุดภาพ (Pixel) หรือ เป็นเมตร โดยรูปแบบของสมการที่ใช้คำนวณความคลาดเคลื่อน (RMS) มีดังต่อไปนี้

RMS สำหรับแกนราบ X = (SUM (X1-Xorg)2 / (n-k))
RMS สำหรับแกนราบ Y = (SUM (Y1-Yorg)2 / (n-k))

เมื่อ : X1 = ค่าพิกัดแนวราบที่คำนวณได้ในข้อมูลภาพที่ยังไม่ได้ปรับแก้
Y1 = ค่าพิกัดแนวดิ่งที่คำนวณได้ในข้อมูลภาพที่ยังไม่ได้ปรับแก้
Xorg = ค่าพิกัดแนวราบของจุดควบคุมทางภาคพื้นดินในภาพ
Yorg = ค่าพิกัดแนวดิ่งของจุดควบคุมทางภาคพื้นดินในภาพ
n = จำนวนจุดควบคุมทางภาคพื้นดิน
k = ค่า Degree of freedom หรือ จำนวนจุด GCP. ที่ต้องใช้ ซึ่งขึ้นกับรูปแบบของสมการทางคณิตศาสตร์ในการแปลงพิกัดค่า RMSerror สามารถบอกได้ว่า จุดควบคุมภาคพื้นดินมีตำแหน่งพิกัดใกล้เคียงกับพิกัดอ้างอิงเพียงใด (มีหน่วยเป็นจุดภาพ) โดยทั่วไปค่า RMSerror ที่ยอมรับได้จะมีค่าบวกหรือลบไม่เกิน 1 จุดภาพ ถ้าค่า RMSerror มีค่าสูงแสดงว่าความคลาดเคลื่อนทางตำแหน่งมีมาก อย่างไรก็ตามการกำหนดจุด GCP ในตำแหน่งใหม่ที่เหมาะสมสามารถที่จะเพิ่มความถูกต้องของการแปลงค่าพิกัดได้

ข่ายสามเหลี่ยมทางอากาศ(Aerial Triangulation)

ในโครงการผลิตแผนที่ด้วยเทคนิคของโฟโตแกรมเมตรีนั้น จะต้องอาศัยค่าพิกัดจากหมุดหลักฐานภาคพื้นดินเป็นจำนวนมากในลักษณะข่ายงานที่ครอบคลุมพื้นที่ของโครงการ การสร้างหมุดหลักฐานด้วยการสำรวจรังวัดภาคพื้นดินนั้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายและสิ้นเปลืองบุคลากรและเวลามากโดยเฉพาะเมื่อพื้นที่ของโครงการมีขนาดใหญ่และเข้าถึงอย่างยากลำบากหรือไม่อาจเข้าไปรังวัดในพื้นที่ได้ ในปัจจุบันนี้กรรมวิธีของโฟโตแกรมเมตรีจึงเป็นเทคนิคใหม่ที่เข้ามาแทนที่การสำรวจรังวัดแบบดั้งเดิม (Conventional ground survey) เพื่อให้ค่าใช้จ่ายในการออกสำรวจภาคสนามมีรายจ่ายน้อยที่สุด ดังนั้นเทคนิคของการสามเหลี่ยมจากรูปถ่ายทางอากาศ (Aerial Triangulation) จึงเป็นตัวแปรที่สำคัญที่มีส่วนช่วยให้การผลิตแผนที่ด้วยเทคนิคของโฟโตแกรมเมตรีใช้งบประมาณอย่างประหยัด(Economic feasibility) ถ้าปราศจากการสามเหลี่ยมจากรูปถ่ายทางอากาศแบบจำลองสามมิติทุกแบบจำลองจะต้องใช้ค่าพิกัดทางราบจำนวน 2 หมุด ค่าพิกัดทางดิ่งจำนวน 3 หมุด และพิกัดหมุดตรวจสอบอีก 1 หมุด ซึ่งค่าพิกัดเหล่านี้ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากและดำเนินการโดยการสำรวจรังวัดภาคพื้นดินการสามเหลี่ยมจากรูปถ่ายทางอากาศการสามเหลี่ยมจากรูปถ่ายทางอากาศเป็นกรรมวิธีการขยายเพิ่มค่าพิกัดทางดิ่งและทางราบภาคพื้นดินโดยการรังวัดตำแหน่งของจุดควบคุมรูปถ่ายในพื้นที่ที่มีส่วนเหลื่อมของรูปถ่ายทางอากาศ

มีวิธีของการสามเหลี่ยมจากรูปถ่ายทางอากาศสามารถจำแนกโดยพิจารณาจากรูปแบบ
การปรับแก้ (Adjustment) ได้ 3 วิธี คือ
1) การปรับแก้แบบพหุนามหรือวิธีต่อลำดับ (Polynomial or Sequential)
2) การปรับแก้แบบจำลองอิสระ (Independent Model)
3) การปรับแก้แบบลำแสง (Bundle)

การปรับแก้แบบพหุนาม / วิธีต่อลำดับการปรับแก้แบบพหุนาม (Polynomial หรือที่เรียกว่า Sequential) ได้ถูกพัฒนาโดยสภาวิจัยแห่งชาติแคนาดา แบบจำลองนี้เรียกว่า “การปรับแก้ของ SCHUT” โดยใช้พหุนามคงแบบ(Conformal polynomial) สำหรับการแยกการปรับแก้ค่าพิกัดทางราบ และค่าพิกัดทางดิ่ง แบบจำลองนี้สามารถแปลงพิกัดแถบ (Strip coordinates) ให้เป็นค่าพิกัดทางราบและทางดิ่งภาคพื้นดินได้ในแต่ละแนวบิน (ภาพ 1.7) หรือใช้ค่าพิกัดของจุดโยงยึด (Tie points) ทำการปรับแก้ค่าพิกัดในลักษณะบล็อกแบบพหุนามได้ (Polynomial block adjustment) นอกจากนี้โปรแกรมที่นิยมใช้นอกเหนือจากSCHUT ได้แก่ STRIM

การสามเหลี่ยมจากรูปถ่ายทางอากาศ (Aerial Triangulation) เป็นกรรมวิธีที่ช่วยเพิ่มจำนวนจุดควบคุมรูปถ่ายทางอากาศทางราบและทางดิ่งจากการวัดพิกัดของจุดต่างๆที่อยู่ภายในบริเวณส่วนเหลื่อมของรูปถ่ายทางอากาศ งานข่ายฯจำแนกออกเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้
1.การเตรียมงาน ( Preparation )
2.การปฏิบัติงานและการวัด ( Execution )
3.การปรับแก้ ( Adjustment )
4. การพิจารณาผลการปรับแก้ ( Determination of Adjusted Coordinates )จุดที่ใช้สำหรับปรับแก้การสามเหลี่ยมจากรูปถ่ายทางอากาศ

จุดที่ใช้กับการปรับแก้การสามเหลี่ยมจากรูปถ่ายทางอากาศ ได้แก่
1) จุดควบคุมพิกัดทางราบและทางดิ่งภาคพื้นดินที่มองเห็นชัดบนรูปถ่ายและในภูมิประเทศที่รับสัญญานจีพีเอสได้ดี จุดเหล่านี้สามารถใช้การมองภาพสามมิติด้วยกล้องมองภาพสามมิติชนิดกระจกและแท่งแพรัลแลกซ์ (Parallax bar) เข้าช่วยเพื่อพิจารณาตำแหน่งวางหมุดให้มีมุมกั้นฟ้า (Mask angle) น้อยกว่า 15 องศา (Chanlikit, 1995)
2) จุดปีก (Wing points ) ที่ทำมุมตั้งฉากกับเส้นฐานรูปถ่าย (Photobase) ในบริเวณจุดมุขยสำคัญไปหาขอบรูปถ่ายเป็นระยะ 9 – 11 เซนติเมตร
3) จุดผ่าน (Pass Points) ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับจุดมุขยสำคัญ
4) จุดโยงยึด (Tie points) ที่อยู่บริเวณส่วนเหลื่อมด้านข้างของแนวบินสองแนว
5) จุดศูนย์กลางการฉายภาพ (Projection centers) ที่ใช้วัดเพื่อการปรับแก้แบบจำลองอิสระ

Bride Wars สงครามงานแต่ง...แข่งกันเป็นเจ้าสาว

เรื่องย่อหนัง Bride Wars สงครามงานแต่ง...แข่งกันเป็นเจ้าสาว

ลีฟกับเอ็มม่า เป็นสองสาวเพื่อนซี้ปึกกันมาตั้งแต่เด็ก พวกเธอมีแผนใฝ่ฝันที่จะแต่งงานไล่เลี่ยตามกัน โดย เป้าหมายที่ทั้งคู่ต้องการคืองานแต่งงานที่เป็นทางการในโรงแรมหรูกลางนิวยอร์กซิตี้ “ เดอะ พลาซา ”

ตอนนี้พวกเธอ26กันแล้วและทั้งคู่ก็พร้อมแล้วสำหรับการแต่งาน ที่จะทำให้ความฝันของทั้งคู่เป็นจริง และมีความสุขกันตราบชั่วนิรันดร์...หรืออาจจะไม่ใช่อย่างนั้น เมื่อเกิดความผิดพลาดเกี่ยวกับเรื่องวันแต่งาน ที่ตอนนี้พวกเธอต้องมาแต่งานกันในวันเดียวกัน! ลีฟ , เอ็มม่า และมิตรภาพตลอดชีวิตของพวกเธอกำลังถูกทดสอบด้วยเรื่องนี้ จากคู่ซี้ปึกกลายเป็นคู่ปรับที่ชิงไหวชิงพริบหักเหลี่ยมเชือดเฉือน จนกลายเป็นสงครามของว่าที่สองเจ้าสาวที่เร่าร้อนแสบสันต์เกินพรรณนา


  • สรุป
    จากภาพ Diagram เป็นแผนภูมิแสดงแสดงความสัมพันธ์ของตัวละครในภาพยนตร์ เส้นในแนวนอนแสดงเวลา เส้นกลุ่มแนวตั้งแสดงเหตุการณ์หรือสถานที่ ที่ตัวละครอยู่ร่วมกัน ในเวลาที่กำหนดไว้ ต้องการนำเสนอการดำเนินเรื่องของภาพยนตร์ โดยเน้นตัวละครที่สำคัญของเรื่อง เพื่อต้องการอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลาของหนัง ตอนต้นเรื่อง กลางเรื่อง ท้ายเรื่อง ของตัวละคร ว่าในช่วงไหนมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง มีการลำดับขั้นตอนเป็นอย่างไร และมีช่วงใดที่ตัวละครแต่ละตัวมาพบกันเพื่อให้เกิดความสัมพันธ์กัน โดยมีเวลาของการดำเนินเรื่องเป็นตัวกำหนดเพื่อความสอดคล้องกัน
    จากภาพ Diagram สามารถสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจได้ดีพอสมควร อาจมีในบางกรณีที่ผู้ที่ต้องการทราบความหมาย ต้องดูภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวมาก่อนจึงจะเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น
    LORD OF THE RINGS, STAR WARS, JURASSIC PARK เปรียบเทียบได้ว่า จาก Charts ที่เห็น เป็นการอธิบายการดำเนินเรื่องโดยถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของ Chart เพื่อการอธิบายในอีกเชิงรูปแบบหนึ่ง แตกต่างจากจากการชมภาพยนตร์ที่ให้รายละเอียด และเห็นภาพมากกว่า เข้าใจมากกว่า เพราะในบางช่วงของ Chart แม้คนที่ดูหนังแล้วก็ยังสับสนข้อเด่น คือ เป็นการนำเสนอเพื่อการสื่อสารในการเข้าใจเกี่ยวกับการลำดับและการดำเนินเรื่องของหนังในรูปแบบของ Chart เป็นการนำเสนอแบบใหม่ ข้อด้อย คือ ไม่เหมาะกับหนังบางเรื่อง เพราะเส้นที่สร้างอาจสร้างความสับสน ทำให้เกิดความเข้าใจและความความหมายคลาดเคลื่อน อย่างที่กล่าวมาข้างต้น ที่ว่า บางช่วงของ Chart แม้คนที่ดูหนังแล้วก็ยังสับสน สิ่งที่ขาดหายไป คือ การออกแบบในรูปของChart สมารถใช้รายละเอียดได้น้อย และขาดความมีชีวิตชีวา

อาวียองซ์ แนะสูตรสวยเร่งรัดใน 14 วัน รับเดือนแห่งความรัก

แนะเส้นทางลัดสู่ความสวย ขอเพียงคุณเคร่งครัดกับ สูตรสวยเร่งรัดใน 14 วัน บนใบหน้า

จะประทับใจสักแค่ไหน หากเดือนแห่งความรักปีนี้ ได้อัพเกรดความสวยขึ้นอีกระดับไว้เซอร์ไพร์สคนพิเศษ สถาบันการเรียนรู้และฝึกอบรม อาวียองซ์ อะคาเดมี จึงได้แนะเส้นทางลัดสู่ความสวย ขอเพียงคุณเคร่งครัดกับ สูตรสวยเร่งรัดใน 14 วัน บนใบหน้า ด้วยการสครับผิวหน้าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ฟื้นฟูผิวด้วยเซรั่มบำรุงผิว บำรุงด้วยครีมชนิดเข้มข้น ยกกระชับผิวหน้าสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ทาครีมกันแดด SPF 30-50 และเปลี่ยนสไตล์การแต่งหน้าใหม่ เพียงเท่านี้...คุณจะดูสวยและดูดีในเดือนแห่งความรัก

ภก.ดร.พงศกรพัฒน์ อรุโณทยานันท์ ผู้จัดการฝ่ายฝึกอบรมผลิตภัณฑ์และอาวียองซ์ อะคาเดมี กล่าวว่า พูดเรื่องความสวย พื้นฐานที่ดีอาจต้องใช้เวลาสะสม ดูแลกันทั้งภายนอก ภายใน แต่หากมีเวลาน้อยนิดต้องพึ่งพาขั้นตอนความงามเหล่านี้ที่อาจเคยมองข้ามไป ควบคู่กับการใช้ผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูง เริ่มด้วย สครับขัดผิวที่หมองคล้ำ ด้วยชนิดอุ่น (Warming Facial Scrub) นวดให้ทั่วใบหน้าช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดใต้ผิวหนัง ผิวหน้าก็จะแลดูสดใส เปล่งปลั่ง สครับสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ต่อมา ฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน ด้วยเซรั่มแก้ไขปัญหาผิวแบบเข้มข้น (Correcting Serum) รวมถึงเซรั่มวิตามินซีเข้มข้น ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยให้ผิวกระจ่างใส โดยทาบางๆ วันละ 2 ครั้ง ทั้งเช้าและก่อนนอน ภายหลังการทำความสะอาดผิว และเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ปรับสภาพผิวแล้ว ไม่ควรทาเซรั่มภายหลังการทาครีมบำรุงเพราะเนื้อครีมอาจขัดขวางการซึมซาบของเซรั่มลงสู่ผิวได้ทำให้ประสิทธิภาพลดลง ต่อมาด้วย เลือกครีมบำรุงที่เข้มข้น ทาทั้งเช้าและก่อนนอน เลือกที่มีส่วนผสมบำรุงได้ล้ำลึกอย่างสารสกัดจาก คาเวียร์ มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว , สารสกัดจากดอกแพนซีป่า มีส่วนช่วยให้เซลล์ผิวอุ้มน้ำได้ดี ที่สำคัญคือแยกครีมบำรุงผิวรอบดวงตาและครีมบำรุงผิวหน้า เพราะผิวรอบดวงตาบอบบาง ต้องใช้แบบอ่อนโยนและไม่ระคายเคืองง่าย จากนั้น ป้องกันรังสียูวี เพราะผลวิจัยหลายแห่งยืนยันว่ารังสีมีอยู่ทุกที่ จึงควรทาโลชั่นหรือครีมกันแดดในขั้นตอนสุดท้ายก่อนการแต่งหน้า ก่อนซื้ออ่านฉลากดูว่ามีค่าที่สามารถปกป้องได้ครบถ้วน ทั้งรังสียูวีบีด้วยค่า SPF 30-50 และป้องกันรังสียูวีเอได้ด้วยค่า PA++ หรือ PA+++ ที่สำคัญต้องบางเบาไม่เหนอะหนะ และทาซ้ำบาง ระหว่างวัน สำหรับคนเหงื่อออกง่าย ต่อมา ยกกระชับผิวหน้า สำหรับสาว 30 ปีขึ้นไป เมื่ออายุเพิ่มขึ้นคอลลาเจนในชั้นผิวลดลง ผิวหน้าจึงเริ่มหย่อนคล้อย ทางลัดง่ายๆ ลองใช้ ผลิตภัณฑ์ยกกระชับผิวหน้า (Face Lift) ซึ่งมีส่วนผสมของไมโครคอลลาเจน มักเป็นประเภทมาส์กพอกหน้า ถ้าเป็นชนิดผงแห้งผสมเจลก็จะได้ส่วนผสมที่สดใหม่กว่า ทดสอบโดยทดลองมาส์คหน้าเพียงซีกเดียวก่อน เพื่อสังเกตความแตกต่าง ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ดีควรเห็นความแตกต่างได้ด้วยผิวที่กระชับเนียนเรียบขึ้น ความหย่อนคล้อยลดลง ในช่วงเร่งด่วนควรยกกระชับผิวหน้าและลำคอสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง และสุดท้ายคือ เปลี่ยนสไตล์การแต่งหน้า นอกเหนือจากผิวหน้าที่สดใสแล้ว การแต่งหน้าในสไตล์ที่แตกต่างจากปกติเป็นอีกขั้นตอนที่จะทำให้คุณดูสวยสะดุดตาขึ้นกว่าวันอื่นๆ

เมื่อผิวหน้าดูสดใส สวยขึ้นมาอีกระดับ สิ่งเสริมความงามของหญิงสาวอีกอย่างที่ไม่ควรพลาดก็คือ เส้นผมที่สลวย สุขภาพดีด้วยขั้นตอนง่ายๆ คือ กำจัดจุดอ่อน ได้แก่ เล็มผมแตกปลายออก กำจัดผมหงอกด้วยสีผมใหม่ หรือถือโอกาสเปลี่ยนสไตล์ทรงผมให้ดูสดใส ฟื้นฟูเส้นผม ควรใช้โคลนหมักผมหรือครีมมาส์คผมสูตรเข้มข้น แทนการใช้ครีมนวดผม สัปดาห์ละ 3 ครั้ง บำรุงและปกป้อง ผมต้องการการบำรุงประจำวันเช่นเดียวกับผิวหน้า จึงควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงปกป้องเส้นผมกลุ่ม Leave-On ที่คล้ายกับอาหารเสริมสำหรับเส้นผม เลือกที่ส่วนผสมของกรดอะมิโนชนิดเดียวกับโปรตีนในเส้นผม เพื่อให้เส้นผมชุ่มชื่นแข็งแรงยิ่งขึ้น หรืออาจมีส่วนผสมที่ป้องกันรังสียูวีและรักษาสีผมให้คงอยู่ได้นาน

สวยเร่งรัด รับเดือนแห่งความรักกันแล้ว ต้องไม่ลืมว่าพื้นฐานความสวยแบบยั่งยืนมาจากสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เพราะฉะนั้นต้องดูแลจากภายในด้วยอาหารการกินที่ถูกหลัก หรือเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีสารสกัดจากเปลือกสน ผลทับทิม ก็จะช่วยส่งเสริมสุขภาพผิวได้ทางหนึ่ง นอกจากนี้ ควรนอนหลับก่อนสี่ทุ่ม เพราะร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนซ่อมแซมส่วนสึกหรอได้ดี ออกกำลังกาย เพียงเท่านี้คุณก็จะสวยได้อย่างเร่งรัดและยั่งยืน
ที่มาข้อมูล : บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด

หูฉลาม...คุณค่ายิ่งใหญ่เท่าไข่ฟองเดียว

หูฉลามเป็นอาหารขึ้นโต๊ะที่ราคาแพงมาก เหตุผลก็เพราะหายาก มีรสชาติดี จึงถือเป็นอาหารชั้นเลิศของชาวจีนแต่ครั้งโบราณกาล ในเรื่องความอร่อยและความหายากนั้นคงไม่ขัดใจกัน ถ้าหากพูดคุยกันรู้เรื่องกับนักอนุรักษ์ธรรมชาติ แต่ในแง่คุณค่าทางอาหารว่ามีสรรพคุณล้นหลามตามคำเชิญชวนนั้น น่าจะลองคำนวณดูว่ามีคุณค่าสมราคาหรือไม่

แท้จริงแล้วหูฉลามมาจาก ส่วนครีบของปลาฉลาม ซึ่งมีลักษณะเป็นกระดูกอ่อนที่แบ่งออกได้เป็นสองส่วน คือฐานครีบและก้านครีบ ซึ่งเป็นกระดูกที่มีลักษณะเป็นเส้นๆ เพื่อช่วยให้ฉลามสามารถแผ่ครีบออกได้ ส่วนที่เรียกว่าก้านครีบนี่แหละครับที่กลายเป็นหูฉลามชามโปรด

มีความเชื่อกันว่าหูฉลามที่นำมาต้มจนเปื่อยและตุ๋นจนได้ที่จะกลายเป็นอาหาร วิเศษในการบำรุงร่างกาย แต่ข้อสังเกตในทางวิทยาศาสตร์ก็คือ ครีบฉลามที่นำมารับประทานนี้ ได้ผ่านกระบวนการหลายอย่าง ตั้งแต่การแตกแห้ง ต้มจนเปื่อย และขูดหนังทิ้งจนเหลือแต่กระดูกอ่อน เหลือแคมเซียมอยู่ก็ไม่กี่มากน้อย

สิริรวมในเรื่องคุณค่าด้านอาหารแล้ว หูฉลามหนึ่งชามมีค่าเสมอด้วยไข่เป็ดฟองเดียวเท่านั้นเอง

การเลือกซื้ออาหารเพื่อคุณค่าสูงสุด จึงไม่ได้หมายถึงอาหารราคาแพงเท่านั้น ถ้ามีความรู้และรู้เท่าทันด้วย การใช้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ มักจะได้ทั้งของถูกและของดีพร้อมกันในคราวเดียว

ที่มา บทความเรื่อง หูฉลาม...คุณค่ายิ่งใหญ่เท่าไข่ไก่ฟองเดียว

การสำรวจรังวัด: ทฤษฎีและการประยุกต์ใช้

เนื้อหาโดยย่อ

หนังสือ การสำรวจรังวัด: ทฤษฎีและการประยุกต์ใช้ เล่มนี้เรียบเรียงขึ้นเพื่อให้สามารถใช้ประกอบการเรียนการสอน ในวิชาที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจพื้นฐาน ครอบคลุมเนื้อหาซึ่งสอนในสถาบันการศึกษาหลายแห่ง เป็นที่รู้จักกันในเนื้อหาที่เรียกว่า การสำรวจรังวัดบนระนาบ (plane surveying) การสำรวจรังวัดแผนที่ภูมิประเทศ (topographic surveying) และการสำรวจทาง (route surveying) โดยหนังสือเล่มนี้มีลักษณะเด่นที่มีโครงสร้างเนื้อหาบทต่าง ๆ เป็นลักษณะเดียวกับหนังสืออ้างอิงต่างประเทศ (text book) ซึ่งได้ปรับปรุงเนื้อหาให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับสภาพการใช้งานปัจจุบัน รวมทั้งมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับหลักการประมวลผลข้อมูลแผนที่เชิงเลข (digital map) ได้แก่ การสร้างแบบจำลองสามมิติ การสร้างเส้นชั้นความสูง การคำนวณปริมาตร ที่ใช้ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รวมถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องซึ่งผู้เรียนต้องทราบ เช่น การรังวัดพิกัดตำแหน่งด้วยดาวเทียม การสำรวจรังวัดด้วยภาพถ่าย และระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ดังนั้น หนังสือเล่มนี้จึงเหมาะที่จะใช้เป็นหนังสืออ้างอิงทั้งในการเรียนการสอน และการนำไปใช้งานของวิศวกรช่างสำรวจ นักภูมิศาสตร์ นักผังเมือง เป็นอย่างยิ่ง



สารบัญ
ทฤษฎีการวัดและความคลาดเคลื่อน, การวัดระยะทาง, การระดับ, มุม แบริงส์ และแอซิมัท, กล้องวัดมุม, เครื่องวัดระยะอิเล็กทรอนิกส์และโททอสเตชัน, งานวงรอบ, เส้นชั้นความสูง, พื้นที่และปริมาตร, การรังวัดแผนที่ภูมิประเทศ, การรังวัดโค้ง, ระบบพิกัด UTM, การหาพิกัดตำแหน่งด้วยเครื่องรับสัญญาณดาวเทียม GPS, ภาพถ่ายทางอากาศ, ระบบภูมิสารสนเทศ



กลุ่มเป้าหมาย
ผู้เรียนในสาขาวิศวกรรมโยธา สำรวจ สิ่งแวดล้อม เหมืองแร่ ภูมิสถาปัตย์ นักแผนที่ นักภูมิศาสตร์ รวมทั้งผู้ที่ทำงานทางด้านแผนที่และระบบภูมิสารสนเทศ



สิ่งสำคัญ
เนื้อหาเหมาะสมในการใช้งานปัจจุบันความเข้าใจเรื่องทฤษฎีการวัดและความคลาดเคลื่อน เครื่องมือและปริมาณที่วัดได้จากเครื่องมือประเภทต่างๆ การนำไปใช้ประโยชน์

ความคิดเห็นจากผู้อ่าน
หนังสือเล่มนี้ใช้เป็นตำราเรียนหรืออ้างอิงขั้นพื้นฐานในวิชาการสำรวจ นอกจากนี้ยังได้รวบรวมเนื้อหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับศาสตร์ทางด้านการสำรวจรังวัดเบื้องต้นซึ่งปัจจุบันได้เข้ามามีบทบาทในการทำงานมากขึ้น และเป็นความตั้งใจของผู้เขียนที่จะให้เป็นหนังสือที่มีเนื้อหาครอบคลุมองค์ความรู้ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานด้านแผนที่และระบบภูมิสารสนเทศ ผู้ที่เรียนในสาขาวิศวกรรมโยธา สำรวจ สิ่งแวดล้อม เหมืองแร่

วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Hello valentine's day



คำคมความรัก 1.


"The best and most beautiful things cannot be seen or even touched, they must be felt with the heart."สิ่งที่สวยงามที่สุดมิอาจสัมผัสได้โดยสัมผัสทางกาย ทว่าต้องรับรู้ผ่านหัวใจ


คำคมความรัก 2.


"When you love someone..you'll do anything to reach the heart of the one you love."


"เมื่อคุณรักใครสักคน...คุณจะทำทุกอย่างเพื่อชนะใจเขา"


คำคมความรัก 3.


"When you feel true love...you follow the way of the heart."


"เมื่อมีรักแท้...คุณก็พร้อมที่จะไปตามเสียงเรียกร้อง ของหัวใจ"


คำคมความรัก 4.


"When you're in love..life is like a romance novel that you never want to end."


"เมื่อคุณอยู่ในห้วงแห่งรัก ..ชีวิตก็เหมือนดั่งนิยายที่คุณอ่านไม่จบ"


คำ คมความรัก 5.


"True love is like a jigsaw puzzle. The pieces will find themselves when they are right for each other."


ความ รักที่แท้จริงก็เหมือนกับเกมจิ๊กซอร์ ชิ้นส่วนทั้งหมดจะสามารถค้นพบตัวเองได้ก็ต่อเมื่อแต่ ละชิ้นสามารถหาชิ้นที่"ใช่"สำหรับตัวมันเอง


คำคมความรัก 6.


"To love is nothing. To be loved is something. To love and be loved is everything!!"


การได้รักเป็นเพียงความว่างเปล่า การถูกรักเป็นเพียงแค่บางสิ่งบางอย่าง ส่วนการได้รักและการถูกรัก นั้นเป็นทุกอย่าง


คำคมความรัก 7.


"It's not too hard to find some love but it's also not easy to make that love to be forever."


อันความรักไม่ใช่เรื่องยากที่จะได้มา และมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ที่จะรักษาความรักนั้นให้อยู่เป็นนิรันดร์


คำคมความรัก 8.


"Life is beautiful with people like you in it."


ชีวิตช่างงดงามนัก เมื่อมีคนอย่างคุณอยู่ด้วย


คำคมความรัก 9.


"The only abnormality is the incapacity to love."


ได้มีรักและสูญเสียมันไป ยังดีเสียกว่า ไม่รู้จักความรักเลย


คำคมความรัก 10.


"Thoughts of you brighten up my day."


การได้คิดถึงคุณ ทำให้วันของฉัน..สว่างไสว


คำคมความรัก 11.


"To LOVE is to GIVE." ความรักคือการให้
คำคมความรัก 12.


"When you love someone, say it. Say it loud. Say it right away, or the moment...just passes you by."


เมื่อไหร่ที่คุณรักใครสักคน จงบอกเขา บอกไปเลยดังๆ ว่า คุณรักเขามากมายแค่ไหน อย่าปล่อยจนถึงวันที่เขาไม่อยู่ให้คุณบอกรัก


คำคมความรัก 13.


"Love is composed of a single soul inhabiting two bodies."


ความรักคือ การรวมจิตวิญญาณของคนสองคนให้เป็นหนึ่ง


คำคมความรัก 14.


"If I can stop one heart from breaking, I shall not live in vain."


ถ้าฉันสามารถหยุดหัวใจเพียงหนึ่งเดียวนี้ไม่ให้แตกสล ายได้ ฉันคงไม่อยู่อย่างเปล่าไร้เช่นนี้


คำคมความรัก 15.


"If you love something...let it go, if it comes back to you it was truly meant to be."


ถ้าคุณรักในใครซักคน จงปล่อยให้เขาเป็นอิสระ เพราะถ้าคู่กันแล้ว ยังไงซะเขาก็เป็นของคุณ


คำคมความรัก 16.


"It's easy to say 'I LOVE YOU'. But only 'I DO' says you're really one, for always..."


คําว่ารักใครก็พูดได้ แต่สิ่งสําคัญกว่านั้นคือรักที่รักจริงๆ จากหัวใจ


คำคมความรัก 17.


"Love can make you happy but often times it hurts, but love is only special when you give it to who its worth."


ความรักสร้างสรรค์ความสุข แต่บ่อยครั้งก็สร้างความเจ็บปวด ทว่า..เมื่อคุณให้ความรักแก่คนที่สมควรได้รับ..ความรักนั้นจะมากค่า


คำคมความรัก 18.


"Love has no control and neither does one's mind when they are in love."


ความรักไม่มีกฎเกณฑ์บังคับ ไฉนเราจะบังคับคนที่กำลังมีความรักได้


คำคมความรัก 19.


"True love lasts forever." ความรักที่แท้จริงเป็นอมตะ


คำคมความรัก 20.


"Some people think that it's holding on that makes one strong, Sometimes it's letting go." บางคนคิดว่า การได้ครอบครองในสิ่งที่รัก จะทำให้รู้สึกมั่นคงในรัก แต่บางทีการให้อิสระ อาจจะมีค่ามากกว่านั้น


ขอขอบคุณข้อมูลจาก


http://www.oknation.net/blog/print.php?id=438460

นัยอันล้ำลึกของคำว่า "ขอบคุณ" โดย ท่าน ว.วชิรเมธี

ขอบคุณ...ความไม่รู้ ที่ทำให้รู้วิธีลุกขึ้นสู้
ขอบคุณ...ความยากจน ที่ทำให้เป็นคนมุมานะ
ขอบคุณ...ความล้มเหลว ที่ทำให้เกิดความเชี่ยวชาญ

ขอบคุณ...ความผิดพลาด ที่ทำให้ฉลาดยิ่งกว่าเดิม
ขอบคุณ...ความริษยา ที่ทำให้กล้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่
ขอบคุณ...คำวิพากษ์วิจารณ์ ที่ทำให้ผลิบานอย่างไร้ข้อตำหนิ

ขอบคุณ...ความไม่รู้ ที่ทำให้รู้จักครูที่ชื่อประสบการณ์
ขอบคุณ...ความผิดหวัง ที่ทำให้ตั้งสติเพื่อลุกขึ้นมาใหม่
ขอบคุณ...ศัตรูที่แกร่งกล้า ที่ทำให้รู้ว่าเรายังไม่ใช่มืออาชีพ

ขอบคุณ...มหกรรมคอรัปชั่น ที่ทำให้เราอยากสร้างสรรค์การเมืองใหม่
ขอบคุณ...ความป่วยไข้ ที่ทำให้เราตั้งใจดูแลสุขภาพ
ขอบคุณ...ความทุกข์ที่ ทำให้เรารู้ว่าความสุขมีค่าแค่ไหน

ขอบคุณ...ความพลัดพราก ที่ทำให้เราสละจากความยึดมั่น ถือมั่น
ขอบคุณ...เพลิงกิเลส ที่ทำให้เรามีเหตุอยากถึงพระนิพพาน

ขอบคุณ...ความตาย ที่ทำให้ฉากสุดท้ายของชีวิตสมบูรณ์แบบ



เจริญพร

ว วชิรเมธี

ความเชื่อเรื่องการสร้างโลกของจีน

ความเชื่อเรื่องการสร้างโลกของจีน เป็นนิทานปรำปราที่เล่าสืบกันมาแต่โบราณ ว่า โลกเดิมทีเป็นฟองไข่ทรงกลม ที่ภายในมียักษ์ตนหนึ่งที่มีผมเพ้าและหนวดเครายาว มีร่างกายยาวถึง 90,000 ลี้ (ประมาณ 45,000 กิโลเมตร) ชื่อ ป้านกู (盤古) หรือ พ่วงโก้วคายทีเพ็กตี่ (พ่วงโก้วผู้ขยายฟ้าดิน) วันหนึ่งป้านกูตื่นขึ้นมาและได้ฟักตัวออกจากไข่ ด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลของป้านกู ป้านกูจึงดันส่วนบนของไข่ให้กลายเป็นสวรรค์และด้านล่างกลายเป็นโลก แต่สวรรค์และโลกกลับดูดตัวเข้าหากัน ป้านกูจึงให้พละกำลังดันทั้ง 2 ส่วนอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานับหมื่น ๆ ปี จนในที่สุดทั้งสวรรค์และโลกไม่อาจรวมตัวกันได้ ป้านกูจึงล้มลงและเสียชีวิต

ภายหลังเสียชีวิตแล้ว ตาข้างซ้ายของป้านกูกลายเป็นพระอาทิตย์ ตาข้างขวากลายมาเป็นพระจันทร์ ร่างกลายกลายเป็นภูเขา เลือดกลายเป็นแม่น้ำ ผมและหนวดเคราที่ยาวสลวยกลายเป็นผักและหญ้า

ผ่านไปหลังจากนั้นอีกเนิ่นนาน นางฟ้าหนี่วา หรือเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ได้ลงมาท่องเที่ยวชมพื้นโลก และชื่นชมว่าโลกเป็นสถานที่ ๆ น่าอยู่ยิ่งนัก เมื่อนางได้ใช้นิ้วจิ้มดินและเศษดินตกลงสู่น้ำก็กลายเป็นลูกอ๊อด นางฟ้าหนี่วา ดีใจยิ่งนัก จึงใช้ดินปั้นเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ จึงกำเนิดขึ้นเป็นสัตว์ชนิดต่าง ๆ แต่นางรู้สึกว่าขาดอะไรบางอย่างไป ในวันที่ 7 นางจึงเริ่มปั้นรูปเหมือนตัวนางขึ้น เกิดเป็นมนุษย์ผู้หญิงขึ้น และนางเกรงว่ามนุษย์ผู้หญิงนี้จะเหงา จึงปั้นรูปใหม่ขึ้นมาให้คล้ายเคียงกันเป็นมนุษย์ผู้ชาย และให้มนุษย์ทั้ง เพศนี้อยู่คู่กันและออกลูกหลานสืบต่อกันมา

ต่อมา ฟูซี (伏羲) ซึ่งเป็นผู้ปกครองชนเผ่าของมนุษย์ได้สังเกตปรากฏการณ์ต่าง ๆ ของธรรมชาติ จนสามารถพึ่งตัวเองได้และเกิดเป็นองค์ความรู้ วันหนึ่งมีกิเลนตัวหนึ่งกระโดดขึ้นมาจากแม่น้ำหวงโฮ บนหลังกิเลนมีสัญลักษณ์ปรากฏที่ถูกเรียกในภายหลังว่า แผนที่เหอ ซึ่งต่อมาได้พัฒนากลายเป็นตัวอักษร

หลังยุคฟูซี เสินหนง (神農) ได้เป็นผู้ปกครองแทน เสินหนงได้สอนให้ผู้คนรู้จักการเพาะปลูก และใช้คันไถ และยุคต่อมาก็คือ ยุคของหวงตี้ (黃帝) หรือ จักรพรรดิเหลือง หวงตี้ได้ทำสงครามกับเหยียนตี้ที่ปั่นเฉวียน (阪泉) สุดท้ายเหยียนตี้พ่ายแพ้ หวงตี้จึงขยายอำนาจการปกครองจากทางตอนเหนือลงไปทางใต้ จนถึงลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงและฮั่นสุ่ย ซึ่งหวงตี้ได้รับการนับถือจากชาวจีนรุ่นต่อมาว่าเป็น ฮ่องเต้หรือจักรพรรดิองค์แรกของจีน และชื่อของพระองค์ก็กลายมาเป็นคำว่า ฮ่องเต้ หรือ จักรพรรดิ ความหมายของชื่อก็กลายมาเป็นสีประจำตัวฮ่องเต้ด้วย คือ สีเหลือง ชาวจีนเชื่อว่า ในราชวงศ์ชั้นหลัง เช่น ราชวงศ์เซี่ย, ราชวงศ์ซาง, ราชวงศ์โจว ต่อมาต่างก็สืบเชื้อสายจากหวงตี้ทั้งนั้น

หลังยุคหวงตี้ เป็นยุคของเชาเหา (少昊) และ ซวนซู (顓頊) ซึ่งในยุคนี้ได้กำเนิดดาราศาสตร์, ปฏิทิน, ความเชื่อ, ไสยศาสตร์และเรือ ต่อมาจึงเป็นยุคของ กู (帝嚳) และ เหยา (尧) ซึ่งในยุคนี้พระอาทิตย์มีมากมายพร้อมกันถึง 10 ดวง และต่างพากันเปล่งรัศมีความร้อนแรงมายังโลกมนุษย์ ทำให้เดือดร้อนกันมาก เง็กเซียนฮ่องเต้จึงมีบัญชาให้ โหวอี้ นักยิงธนูบนสวรรค์ลงไปยังโลกมนุษย์เพื่อจัดการ โหวอี้ใช้ธนูยิงดวงอาทิตย์ตกไปถึง 9 ดวง แต่เป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป เง็กเซียนฮ่องเต้จึงมีบัญชาให้โหวอี้ต้องอยู่บนโลกมนุษย์เป็นต้นไป

ต่อมาเป็นยุคของซุน (舜) และ หวี่ (禹) ในยุคของหวี่ได้เกิดอุทกภัย (大禹治水) และหวี่สามารถสร้างเขื่อนควบคุมกระแสน้ำได้สำเร็จ โดยไม่ได้กลับบ้านเป็นระยะเวลานานถึง 9 ปี และวันหนึ่งก็ได้มีเต่าศักดิ์สิทธิ์ตัวหนึ่งผุดขึ้นมาจากแม่น้ำลั่ว บนกระดองเต่ามีอักษรที่ต่อมาเรียกว่า แผนที่ลั่ว ซึ่งกลายมาเป็นศิลปะวิทยาการต่าง ๆ สืบมาจนปัจจุบัน

ภายหลังจากหวี่เสียชีวิตลง บุตรชายของหวี่ก็สังหารอี้เพื่อแย่งชิงตำแหน่งหัวหน้า และเริ่มเข้าสู่ยุคแห่งการสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าโดยสายเลือดในระบบวงศ์วานว่านเครือ และหลังจากนั้น ประวัติศาสตร์จีนก็ก้าวเข้าสู่ราชวงศ์แรกที่มีการสืบทอดบัลลังก์อำนาจโดยสายเลือด นั่นคืด จุดกำเนิดของราชวงศ์เซี่ย (夏代) ราชวงศ์แรกของจีน

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก
http://th.wikipedia.org

ประเภทของภาพถ่ายดาวเทียม IKONOS

PrecisionPlus
ภาพถ่ายดาวเทียม IKONOS แบบ Precision Plus

เป็นภาพ Orthorectified ที่มีความถูกต้องในเชิงตำแหน่งมากที่สุด เหมาะสำหรับงานด้านการวางผังเมือง การรังวัดออกโฉนดที่ดิน และการผลิตแผนที่สาธารณูปโภค ในการผลิตภาพดาวเทียมที่มีความถูกต้องสูงเช่นนี้ จำเป็นต้องอาศัยจุดควบคุมภาคพื้นดินและแบบจำลองภูมิประเทศที่มีความถูกต้องสูง ภาพ Precision Plus มีความถูกต้องอยู่ที่ 2 เมตร ในระบบ CE 90 มีจำหน่ายในรูปแบบภาพขาวดำและภาพสีที่มีรายละเอียดของจุดภาพเท่ากับ 1 เมตร

ความถูกต้องในเชิงตำแหน่ง CE90 – 2.0 เมตร; RMS – 0.9 เมตร, ความถูกต้องที่มาตราส่วน 1:2,400 กำหนดโดย NMAS
ขนาดของจุดภาพ 1 เมตรทั้งภาพสีและภาพขาวดำ
การปรับแก้ ผ่านกระบวนการนี้
มุมเงยขณะถ่ายภาพ 72 – 90 องศา
การต่อประสานภาพ ผ่านกระบวนการนี้
ค่าหมุดอ้างอิงในการปรับแก้พิกัด (RPC) ไม่ใช้ในการผลิตภาพ
จุดควบคุมภาคพื้นดิน (GCP) ใช้ในการผลิตภาพ
DEM ใช้ในการผลิตภาพ
ลักษณะงานที่เหมาะสม งานวิเคราะห์รายละเอียดเกี่ยวกับเมือง การรังวัดที่ดิน และ การผลิตแผนที่สาธารณูปโภคต่างๆ
การให้บริการ SISEA ให้บริการ

ภาพถ่ายแบบ Stereo
ภาพ Stereo ที่มีจำหน่ายขณะนี้ เป็นประเภทที่มีรายละเอียดจุดภาพ 1 เมตรเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ภาพ Stereo จำหน่ายเป็นคู่ๆ พร้อมกับไฟล์ข้อมูล RPC Camera Model เพื่อไว้สำหรับใช้กับซอฟท์แวร์มาตรฐานทางด้านโฟโตแกรมเมตตรี่ ในการหาค่าพิกัดแบบ3 มิติ การสร้างแบบจำลองระดับสูงภูมิประเทศ (DEM) และสำหรับการผลิตภาพ Orthorectified ภาพ Stereo แต่ละคู่ประกอบด้วย ภาพ 2 ภาพ โดยภาพหนึ่งใช้มุมเงยในการถ่ายภาพต่ำ (สูงกว่า 60 องศา) และอีกภาพหนึ่งใช้มุมเงยในการถ่ายภาพสูง (สูงกว่า 72 องศา) โดยมุมระหว่างตำแหน่งของดาวเทียมในการถ่ายภาพทั้งสองครั้ง มีขนาดประมาณ 30 ถึง 45 องศา (มีอัตราส่วนระยะฐานต่อความสูงอยู่ระหว่าง 0.54-0.83)

Reference Stereo
ความถูกต้องในเชิงตำแหน่ง CE90 – 25 เมตรในแนวราบ และ LE90 – 22 เมตรในแนวดิ่ง,
มีความถูกต้องที่มาตราส่วน 1:50,000 ซึ่งกำหนดโดย NMAS
ขนาดของจุดภาพ 1 เมตรทั้งภาพสีและภาพขาวดำ
มุมเงยขณะถ่ายภาพ 60 – 72 องศา
การต่อประสานภาพ ผ่านกระบวนการนี้
ค่าหมุดอ้างอิงในการปรับแก้พิกัด (RPC) ่ใช้ในการผลิตภาพ
จุดควบคุมภาคพื้นดิน (GCP) ไม่ใช้ในการผลิตภาพ
DEM ไม่ใช้ในการผลิตภาพ
ลักษณะงานที่เหมาะสม หาค่าพิกัด 3 มิติ สร้างแบบจำลองระดับสูงของภูมิประเทศเชิงเลข และ การผลิตภาพ Orthorectified ด้วยกระบวนการทางโฟโตแกรมเมตตรี่
การให้บริการ SISEA ให้บริการ

Precision Stereo
ความถูกต้องในเชิงตำแหน่ง CE90 – 4 เมตรในแนวราบ และ LE90 – 5 เมตรในแนวดิ่ง,
มีความถูกต้องที่มาตราส่วน 1:4,800 ซึ่งกำหนดโดย NMAS ขนาดของจุดภาพ 1 เมตรทั้งภาพสีและภาพขาวดำ
มุมเงยขณะถ่ายภาพ 60 – 72 องศา
การต่อประสานภาพ ผ่านกระบวนการนี้
ค่าหมุดอ้างอิงในการปรับแก้พิกัด (RPC) ่ใช้ในการผลิตภาพ
จุดควบคุมภาคพื้นดิน (GCP) ใช้ในการผลิตภาพ
DEM ไม่ใช้ในการผลิตภาพ
ลักษณะงานที่เหมาะสม หาค่าพิกัด 3 มิติ สร้างแบบจำลองระดับสูงของภูมิประเทศเชิงเลข และ การผลิตภาพ Orthorectified ด้วยกระบวนการทางโฟโตแกรมเมตตรี่
การให้บริการ SISEA ให้บริการ